สมเด็จพระสังฆราชมีพระบัญชาจัดการสงฆ์ทำผิดวินัยร้ายแรงเต็มที่
“ภูมิธรรม”เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช รับพระโอวาทให้ธำรงพระพุทธศาสนาเคร่งครัด สงฆ์ผิดวินัยร้ายแรงต้องจัดการเต็มที่
KEY
POINTS
- สมเด็จพระสังฆราชมีพระบัญชาให้จัดการพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดพระธรรมวินัยขั้นร้ายแรง (อาบัติปาราชิก) โดยไม่มีการละเว้น
- ทรงเน้นย้ำให้ฝ่ายบ้านเมืองร่วมมือธำรงรักษาพระพุทธศาสนา และหากมีการปรับปรุงกฎหมายต้องมีความชัดเจนและเข้มงวด
- รัฐบาลรับสนองพระดำรัสเพื่อเป็นหลักในการดำเนินงานด้านศาสนา โดยการแก้ไขกฎหมายใดๆ จะต้องผ่านการหารือกับมหาเถรสมาคม
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2568
นายภูมิธรรมระบุว่า สมเด็จพระสังฆราชได้ประทานพระโอวาทเน้นย้ำให้ฝ่ายบ้านเมืองมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มกำลัง พร้อมขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันในการธำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด โดยรับสั่งชัดเจนว่า หากพบการกระทำที่เข้าข่ายอาบัติปาราชิก ให้ดำเนินการไปตามพระธรรมวินัยโดยไม่ละเว้น
ช่วงหนึ่งการสนทนา มีการหยิบยกประเด็นที่ฝ่ายพลเรือนเตรียมยกร่างกฎระเบียบเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับพุทธศาสนา ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชและสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ได้แสดงความเห็นร่วมกันว่า ควรพิจารณากฎหมายเดิมอย่างรอบคอบ และหากมีการปรับปรุงเพิ่มเติมต้องเขียนให้ชัดเจนและเข้มงวด เพื่อไม่ให้พระพุทธศาสนาต้องเสื่อมถอย
ทั้งนี้ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นเฉพาะจุดที่อาจถูกขยายความในโลกโซเชียลเกินจริง จึงต้องมีมาตรการที่ชัดเจนและสมดุล โดยหากมีการแก้ไขกฎหมายใดเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา จะต้องหารือผ่านมหาเถรสมาคมเป็นลำดับต่อไป อย่างไรก็ตาม พระดำรัสจากสมเด็จพระสังฆราชถือเป็นหลักสำคัญที่รัฐบาลจะยึดถือในการขับเคลื่อนงานด้านศาสนาอย่างเข้มข้นต่อไป.


