ราชกิจจาฯ ประกาศ “ทรามาดอลชนิดรับประทาน” เป็นยาควบคุมพิเศษ
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้ "ยาทรามาดอล" (Tramadol) ชนิดรับประทาน ถูกจัดเป็นยาควบคุมพิเศษเพิ่มเติม มีผลใน 180 วัน
ประกาศเรื่องยาควบคุมพิเศษ ฉบับที่ 57 มีเนื้อหาหลักระบุให้เพิ่มรายการ "ยาทรามาดอล ตำรับยาเดี่ยว ชนิดรับประทาน" เป็นรายการที่ 99 ในบัญชียาควบคุมพิเศษ ซึ่งหมายความว่าการใช้ ยา จ่ายยา หรือครอบครองต้องเป็นไปตามกฎหมายควบคุมอย่างเข้มงวด
การปรับสถานะครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อลดการใช้ยาทรามาดอลอย่างไม่เหมาะสม เนื่องจากมีรายงานการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และเสี่ยงต่อการเสพติด.
ลงนามโดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และจะ มีผลบังคับใช้หลังพ้น 180 วัน นับจากวันถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
สำหรับ ทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาในกลุ่มโอปิออยด์ (Opioid) ที่นำมาใช้เป็นยาบรรเทาอาการปวดระดับปานกลางถึงระดับรุนแรง เช่น หลังจากได้รับบาดเจ็บ หรือการผ่าตัด หรืออาการปวดที่เกิดจากโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดได้ดีเทียบเท่ากับมอร์ฟีนสำหรับอาการปวดระดับต่ำถึงปานกลาง แต่มีประสิทธิภาพด้อยกว่าสำหรับอาการปวดรุนแรง
ผลข้างเคียงที่พบจากการใช้ ยาทรามาดอล เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก มือสั่น ใจสั่น ความดันโลหิตต่ำ มึนงง ง่วงซึม หากใช้ในปริมาณมากอาจเกิดประสาทหลอน ชักและนำไปสู่การเสียชีวิต นอกจากนี้ยังพบอาการกล้ามเนื้อเกร็งกระตุกร่วมกับความดันโลหิตสูง ภาวะลิ่มเลือดกระจายในหลอดเลือด ไตวายเฉียบพลัน หากมีการใช้ยาหลายตัวร่วมกันโดยเฉพาะยาอี ยาบ้า จะยิ่งเสริมทำให้เกิดอาการข้างเคียงจากยาทรามาดอลเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ทรามาดอล จัดเป็นยาอันตรายตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 แม้มีขายในร้านขายยาแผนปัจจุบันทั่วไป แต่การใช้ยานี้ต้องระมัดระวังและควรอยู่ภายใต้คำสั่งแพทย์เท่านั้น และห้ามขายให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ในทุกกรณี แต่ในปัจจุบันพบการลักลอบจำหน่ายตามช่องทางโซเชียลมีเดีย เป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น เพื่อนำไปใช้ในทางที่ผิด ทั้งการใช้แบบยาเดี่ยวและผสมกับเครื่องดื่มชนิดต่างๆ ทั้งนี้ หากมีการใช้อย่างต่อเนื่องจะทำให้มีความต้องการปริมาณยาที่เพิ่มมากขึ้น จนทำให้เกิดอาการติดยาในที่สุด


