“หมอแอร์" ร่ำไห้ ไม่ขอประกันตัว เตรียมฝากขังศาลอาญาวันนี้!
“ทนายเอี้ยง” เผย “หมอแอร์" ร่ำไห้ ไม่ขอประกันตัว ยอมรับเบิกจ่าย "ยาเสียสาว" จาก อย.จริง เตรียมฝากขังศาลอาญาวันนี้!
ความคืบหน้ากรณีที่ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นและจับกุม พ.ต.อ.หญิงอัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือ หมอแอร์ และพวก กรณี ฐานร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต และสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความ กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมพ.ต.อ.หญิงอัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือ หมอแอร์ว่า เมื่อสักครู่ได้เข้าไปร่วมฟังการสอบสวน ซึ่งหมอแอร์ได้ให้การหลายส่วนโดยได้ให้การภาคเสธ
โดยเจ้าตัวยอมรับเรื่องของการสั่งยาบางส่วน ทั้งนี้จากการตรวจค้นห้องพัก แฟลตตำรวจ หมอแอร์ยอมรับ เป็นห้องของตนเอง และยาของกลางที่อยู่ภายในห้อง หมอรู้บางส่วนและไม่รับรู้บางส่วน แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
โดยหมอแอร์ประสงค์ ไม่ขอยื่นประกันตัว ทั้งในชั้นพนักงานสอบสวนและชั้นศาล และในวันนี้เจ้าหน้าที่จะนำตัวหมอแอร์ไปฝากขังยังศาลอาญา
เมื่อถามว่าหมอเป็นคนเบิกจ่ายยาจากอย.จริงหรือไม่ ทนายระบุว่า มีตามข้อเท็จจริง เนื่องจากเขาเป็นหมอมีอำนาจในการสั่งซื้อให้ผู้ป่วยอยู่แล้ว ตำรวจยังต้องสอบสวนอีกหลายปาก เพื่อสรุปสำนวนก่อนพิจารณาสั่งฟ้อง
ส่วนที่มีการพูดถึงรายชื่อคนตายที่ถูกสวมสิทธิทนายเอี้ยง กล่าวว่า ตำรวจสอบประเด็นนี้แล้ว ขอให้เป็นการสอบสวนที่มาของรายชื่อ ตนไม่อยากเปิดเผยรายละเอียด
รวมถึงยาจะกระจายไปถึงเครือข่ายค้ายาเสพติดหรือไม่ ยอมรับต้องมีการสอบ ซึ่งส่วนไหนที่ไม่เป็นความจริง หมอแอร์ก็ปฏิเสธ ขณะนี้ยังไม่มีการพาดพิงถึงบุคคลอื่น
ทนายเอี้ยง ยังเปิดเผยท่าทีหมอแอร์ว่า จากข่าวกระแสที่ออกมารุนแรง เขาหนักใจเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว วันนี้หมอแอร์รับสภาพ แต่พอโดนกระแสโจมตีหนัก หมอก็ตัดสินใจไม่ประสงค์ประกันตัว อยากสงบสติอารมณ์ก่อนและค่อยคิดว่าต่อไปนี้จะเอาอย่างไรกับชีวิต ขณะนี้ยังไม่คุยเรื่องการต่อสู้คดี ให้คุณหมอเข้าไปอยู่ข้างในก่อนแล้วค่อยตัดสินอีกทีว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ
ทั้งนี้ระหว่างการสอบปากคำยังไม่พบว่า หมอแอร์ร้องไห้ แต่เรื่องตกใจหรือขวัญเสียเป็นเรื่องปกติ และหมอแอร์ไม่ได้ฝากอะไรเป็นพิเศษ มีเพียงเรื่องลูกที่เป็นธรรมดาของผู้หญิงจะต้อง จัดการ
อย่างไรก็ตามตนยังไม่แจ้งหมอแอร์ว่าวันนี้จะมีค้นเพิ่มอีก 11 จุด แต่เชื่อว่าตำรวจได้มีการแจ้งแล้ว ก็เป็นเรื่องปกติจะกังวลเพราะไม่รู้ว่าการตรวจค้นจะเจออะไรบ้าง ตนเป็นทนาย ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง รู้เฉพาะหน้าที่งานที่รับผิดชอบ เราเป็นทนายให้สิทธิ์เต็มที่ ส่วนจะผิดหรือไม่ผิด ไม่สามารถตัดสินได้ ศาลจะเป็นผู้ตัดสิน หากผิดจริงก็ต้องรับกรรมตามข้อกฎหมาย