เปิดที่มาบัตรสมาร์ทการ์ดก่อนถูกยกเลิกประมูล 20 ล้านใบ
เปิดเบื้องหลังการจัดซื้อ "บัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด" หลังกรมการปกครองประกาศยกเลิกการประกวดราคาจำนวนกว่า 20 ล้านใบ ก่อนเปิดประมูลใหม่โดยให้เวลาเตรียมเพียง 7 วัน
การจัดทำบัตรประจำตัวประชาชน เกิดปัญหาอีกครั้ง เมื่อกรมการปกครองประกาศยกเลิกการประกวดราคาซื้อบัตรประจำตัวประชาชน Smart Card จำนวนกว่า 20 ล้านใบ ด้วยวิธี E-bidding หลังมีข้อสังเกตถึงความไม่ชอบมาพากลในการดำเนินการ และเตรียมเปิดประมูลใหม่ด้วยวิธีคัดเลือก โดยให้เวลาผู้ประกอบการจัดเตรียมเอกสารเพียง 7 วัน รวมวันหยุดราชการ ทำให้เกิดคำถามถึงความโปร่งใสและเป็นธรรม
ย้อนไปเมื่อปี 2547 ประเทศไทยได้มีการจัดซื้อบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดในขณะนั้นตั้งเป้าจัดซื้อบัตรจำนวน 64 ล้านใบ และดำเนินการผ่านการประมูลหลายล็อต อย่างไรก็ตาม กลับเผชิญข้อกล่าวหาเรื่องความไม่โปร่งใสและปัญหาทุจริต ทำให้บางล็อตต้องถูกยกเลิกและเปิดประมูลใหม่
สถิติการจัดซื้อ (ปีงบประมาณ 2558–2566)
กรมการปกครองดำเนินการจัดซื้อบัตรสมาร์ทการ์ดผ่านระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) และบางกรณีใช้วิธีคัดเลือก โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้:
ปี 2566: 8.5 ล้านใบ | วงเงิน 166.5 ล้านบาท
ปี 2565: 4.3 ล้านใบ | วงเงิน 84.4 ล้านบาท
ปี 2564: 10.7 ล้านใบ | วงเงิน 211 ล้านบาท
ปี 2561: 10.5 ล้านใบ | วงเงิน 411.86 ล้านบาท
ปี 2560: 9.2 ล้านใบ | วงเงิน 180.86 ล้านบาท
ปี 2559: 3.2 ล้านใบ | วงเงิน 63.91 ล้านบาท
ยกเลิกประมูลล็อตใหญ่ ปี 2568
กรมการปกครองประกาศ ยกเลิกการประมูลบัตรสมาร์ทการ์ดกว่า 20 ล้านใบ หลังพบข้อสังเกตเรื่องความไม่โปร่งใส โดยเฉพาะกำหนดระยะเวลาให้เอกชนเตรียมเอกสารเพียง 7 วัน รวมวันหยุดราชการ โดยกรมการปกครองได้ส่งหนังสือเชิญเลขที่ พิเศษ/2568 ลงวันที่ 28 พ.ค. 2568 ให้เสนอราคาแบบคัดเลือก โดยให้เวลาในการจัดทำเอกสารการเสนอราคาเพียง 7 วัน ซึ่งรวมวันหยุดราชการด้วยทำให้ถูกวิจารณ์ว่าขาดความเป็นธรรม
นอกจากนี้ กรมการปกครองเตรียมเปิดประมูลใหม่โดยใช้ วิธีคัดเลือก และตั้งเงื่อนไขให้ผู้รับจ้างผลิตและส่งมอบบัตร 8.4 ล้านใบภายใน 60 วัน หลังลงนามในสัญญา โดย 2 ล้านใบแรกต้องส่งภายใน 10 วัน เงื่อนไขดังกล่าวถูกมองว่าอาจไม่เป็นธรรมและไม่เอื้อต่อการแข่งขันอย่างเท่าเทียม
ส่องรายชื่อผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมสมาร์ทการ์ด
1. บริษัท ดาต้าโปรดักส์ ทอปปัง ฟอร์ม จำกัด
บริษัทที่ครองตลาดการจัดซื้อบัตรประชาชนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา:
ปี 2563–2561: ชนะประมูลบัตรรวมหลายสิบล้านใบ
ปี 2561: วงเงินสูงสุด 411.86 ล้านบาท
2. บริษัท คอนโทรล ดาต้า (ประเทศไทย) จำกัด
มีบทบาทในการจัดซื้ออุปกรณ์ประกอบ เช่น เครื่องอ่านบัตรและวัสดุสิ้นเปลืองสำหรับระบบพิมพ์บัตร
ปี 2559: จัดซื้อเครื่องอ่านบัตร 145,400 เครื่อง
ปี 2567: จัดซื้อวัสดุสำหรับเครื่องพิมพ์ FARGO HDP 5000e
3. บริษัท จันวาณิชย์ ซีเคียวริตี้ พริ้นท์ติ้ง จำกัด
ผู้ผลิตบัตรสมาร์ทการ์ดในปี 2567 จำนวน 3.6 ล้านใบ โดยใช้วิธีเฉพาะเจาะจง
ผลกระทบและแนวโน้มในอนาคต
แม้จะมีการยกเลิกประมูลล็อตล่าสุด กรมการปกครองยืนยันว่า ยังมีบัตรสมาร์ทการ์ดเพียงพอจนถึงเดือนก.พ. 2568 โดยมีการจัดสรรบัตรให้สำนักทะเบียนทั่วประเทศตั้งแต่เม.ย. 2567
แต่การตั้งเงื่อนไขประมูลแบบเร่งรัดและปัญหาเรื่องความโปร่งใส อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน รวมถึงบั่นทอนความเชื่อถือในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ หากไม่มีการปรับปรุงอย่างเป็นรูปธรรม
กว่า 20 ปีที่ผ่านมาการจัดซื้อบัตรสมาร์ทการ์ดของไทยยังคงเป็นเรื่องอ่อนไหว มีมูลค่าใช้จ่ายหลายร้อยล้านบาทในแต่ละปี และเต็มไปด้วยข้อสังเกตเรื่องความโปร่งใส การเปิดประมูลครั้งใหม่จะเป็นบทพิสูจน์ความจริงใจของรัฐในการยกระดับระบบจัดซื้อให้เป็นธรรมและตรวจสอบได้จริง


