"ฮั้ว สว." ฉุดดัชนีการเมืองดิ่ง โพลชี้ คนไทย "หมดหวัง สิ้นศรัทธา"
สวนดุสิตโพลชี้! ดัชนีการเมืองไทยร่วงต่อเนื่อง คนไทย "หมดหวัง-เบื่อหน่าย" การเมืองทั้งปม ฮั้ว สว. - งบประมาณ ผลงานฝ่ายค้านโดดเด่น รัฐบาลสอบตกเรื่องปากท้อง
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยผลสำรวจ "ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนพฤษภาคม 2568"
พบว่าภาพรวมคะแนนลดลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความไม่พอใจและความเบื่อหน่ายของประชาชนต่อสถานการณ์การเมืองไทย
การสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 2,168 คน ระหว่างวันที่ 26-30 พฤษภาคม 2568 พบว่า คะแนนดัชนีการเมืองไทยโดยรวมอยู่ที่ 4.70 คะแนน ลดลงจากเดือนเมษายนที่ 4.82 คะแนน
ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ
- ผลงานฝ่ายค้านโดดเด่น
ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุดคือ ผลงานของฝ่ายค้าน เฉลี่ย 5.29 คะแนน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนชื่นชมบทบาทการตรวจสอบรัฐบาล
- เศรษฐกิจน่าห่วง
ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนต่ำสุดคือ สภาพเศรษฐกิจโดยภาพรวมและการแก้ปัญหาความยากจน ได้เท่ากันที่ 4.31 คะแนน ซึ่งสอดคล้องกับความกังวลของประชาชนเรื่องปากท้อง
- นักการเมืองเด่น:
- ฝ่ายรัฐบาล: แพทองธาร ชินวัตร มีบทบาทโดดเด่นที่สุด ได้รับความนิยมร้อยละ 40.87
- ฝ่ายค้าน: ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ มีบทบาทโดดเด่นที่สุด ได้รับความนิยมสูงถึงร้อยละ 50.79
- ผลงานที่ถูกใจประชาชน:
- ฝ่ายรัฐบาล: ประชาชนชื่นชอบ การเร่งแก้ปัญหาท่องเที่ยวและฟื้นฟูความเชื่อมั่น มากที่สุด (ร้อยละ 37.55)
- ฝ่ายค้าน: ประชาชนชื่นชอบ การตรวจสอบความไม่โปร่งใสของรัฐบาล มากที่สุด (ร้อยละ 48.62)
สัญญาณ "หมดหวัง-เบื่อหน่าย" การเมืองไทย
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ชี้ว่า คะแนนดัชนีการเมืองไทยที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นสัญญาณว่าคนไทยกำลัง "หมดหวัง" และ "เบื่อหน่าย" การเมืองมากขึ้นทุกที
ท่ามกลางกระแสข่าวต่าง ๆ เช่น การฮั้ว สว. เสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาล (เพื่อไทยและภูมิใจไทย) และการอภิปรายงบประมาณปี 2569 ที่หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความคุ้มค่า ความโปร่งใส และการตอบโจทย์ปากท้องประชาชน
คะแนนดัชนีด้านการบริหารประเทศตามนโยบายที่ประกาศไว้ การแก้ปัญหาต่าง ๆ และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนยังคงอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวล
รัฐบาลต้องเร่งกู้วิกฤติศรัทธา
รองศาสตราจารย์ ดร.เขมภัทท์ เย็นเปี่ยม จากมหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิเคราะห์ว่า คะแนนนิยมของรัฐบาลเริ่มลดลงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
เนื่องจากนโยบายเศรษฐกิจยังไม่สามารถกระตุ้นให้ฟื้นตัวได้จริง และโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลยังสร้างความเคลือบแคลงสงสัยในเรื่องความคุ้มค่า ความโปร่งใส และผลกระทบต่อสังคม
ในขณะที่รัฐบาลพยายามรักษาเสถียรภาพทางการเมืองและกุมอำนาจให้ครบเทอม ผลงานการแก้ปัญหาที่จับต้องได้กลับไม่เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาประชาชน
ตรงกันข้ามกับฝ่ายค้านที่ได้คะแนนนิยมดีกว่า ด้วยบทบาทการติดตามตรวจสอบนโยบายและโครงการของรัฐบาลอย่างแข็งขัน


