DSI จ่อชี้ชะตาผู้ต้องหา "นอมินีตึก สตง." สิ้นเดือน พ.ค. นี้

 

ประเด็นตึกสตง.ถล่ม นำมาสู่คดีความซับซ้อนที่เชื่อมโยงไปถึงข้อกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โครงสร้าง 'นอมินี' และประเด็นการฮั้วประมูล กำลังใกล้เข้าสู่บทสรุปในประเด็นสำคัญ

 

ล่าสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ส่งสัญญาณเร่งเครื่อง เตรียมปิดจ๊อบคดีสำคัญ "นอมินีตึก สตง."

 

คดีนี้คือ คดีพิเศษที่ 32/2568 ที่ DSI รับไม้มาสอบสวน โดยพุ่งเป้าไปที่ความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ซึ่งมี ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดี DSI เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน

 

 

เบื้องหลังปากคำวิศวกร 30 รายอ้าง 'ลายเซ็นปลอม'

 

ความเคลื่อนไหวสำคัญที่ผ่านมา คือการที่ DSI ได้เรียกพยานสำคัญอย่าง "วิศวกร" จากกิจการร่วมค้า PKW กว่า 40 ราย เข้าให้ปากคำระหว่างวันที่ 29 เมษายน - 2 พฤษภาคม 2568

 

เพื่อชี้แจงกรณีมีรายชื่อและลายเซ็นปรากฏในเอกสารควบคุมงานก่อสร้างตึก สตง.

 

ผลการสอบสวนพยานกลุ่มนี้พบข้อเท็จจริงที่น่าตกใจ คือ มีเพียง 8 รายที่ยอมรับว่าเซ็นควบคุมงานจริง ส่วนอีกถึง 30 รายให้การว่าถูกปลอมลายเซ็น

 

ขณะนี้ คณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างคัดแยกถ้อยคำให้การเหล่านี้ เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเด็น 'นอมินี' ซึ่งถือเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของคดี

 

 

 

ดีเอสไอเร่งปิดจ๊อบ ชี้ชะตาผู้ต้องหาล็อตแรกภายในสิ้น พ.ค.

 

พันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษก DSI เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีนี้ ครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ว่า

 

การประชุมวันนี้เป็นการติดตามความคืบหน้าในทุกประเด็น ทั้งเรื่องนอมินี ฮั้วประมูล และมาตรฐานอุตสาหกรรม

 

ดยเฉพาะประเด็นนอมินี ที่ DSI ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้แล้ว การเร่งสรุปสำนวนจึงเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อให้ทันกรอบเวลาการฝากขัง

 

"เราต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้ทันกรอบเวลา เพราะมีการควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้แล้ว" พ.ต.ต.วรณันกล่าว

 

พร้อมเสริมว่า DSI ได้รวบรวมพยานหลักฐานมาพอสมควรแล้ว จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาไปก่อนหน้านี้

 

ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ผู้ต้องหาต้องเข้ามาแก้ข้อกล่าวหา หากไม่เข้ามาหรือไม่นำพยานหลักฐานมาชี้แจงหักล้าง DSI ก็จะพิจารณาจากพยานหลักฐานที่มีอยู่

 

ดังนั้น กรอบเวลาในการสรุปสำนวนคดีนอมินี เพื่อส่งให้พนักงานอัยการคดีพิเศษจะอยู่ประมาณสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้

 

 

ไล่ตรวจหลักฐานนับร้อยลัง หาคำตอบ 'ทำไมตึกสตง.ถล่ม'

 

นอกจากประเด็นนอมินี การสอบสวนยังครอบคลุมถึงบทบาทของนายทุนชาวต่างชาติ

 

โดยเฉพาะกรณีนายบินลิง วู ชาวจีน ที่ DSI อยู่ระหว่างตรวจสอบประเด็นและพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด หากมีความคืบหน้าเรื่องหมายเรียกหรือหมายจับก็จะแจ้งให้ทราบต่อไป

 

ในด้านพยานเอกสาร พ.ต.ต.วรณันเปิดเผยว่า มีเอกสารที่ตรวจยึดได้จากไซต์งานก่อสร้างชั่วคราวของ สตง. มากถึง 121 ลัง

 

ซึ่งต้องขอบคุณหน่วยงานพันธมิตรที่เข้ามาช่วยคัดแยกเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสำนวน ทั้งเอกสารการก่อสร้าง การควบคุมงาน และการออกแบบ

 

สำหรับคำถามสำคัญที่สังคมรอคอย คือ "ปัจจัยอะไรกันแน่ที่ทำให้ตึก สตง. พังถล่ม?"

 

โฆษก DSI ระบุว่า จะขอฟังรายละเอียดจากการประชุมวันนี้ก่อน เพราะประเด็นนี้เชื่อมโยงกับความคืบหน้าทั้ง 3 ส่วน คือ คดีนอมินีที่ใกล้สรุป, คดีฮั้วประมูลที่จะดำเนินการต่ออย่างไร, และข้อมูลเกี่ยวกับมาตรฐานอุตสาหกรรมที่เข้ามาเกี่ยวข้องแล้วหรือไม่

 

ทั้งหมดนี้คือจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ DSI กำลังต่อ เพื่อไขปมซับซ้อนของคดีนี้ โดยเฉพาะประเด็น "นอมินี" ที่ใกล้ถึงบทสรุป

 

ซึ่งจะส่งผลต่อการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และอาจนำไปสู่คำตอบว่า อะไรคือต้นเหตุที่แท้จริงของการถล่มของอาคารแห่งนี้ที่สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง