ผอ.ปภ. เผย เร่งเคลียร์ใต้ดิน "ตึกสตง." คาด! วันนี้คืบหน้าครึ่งทาง
"ผอ.ปภ." เผย เร่งเคลียร์ใต้ดิน "ตึกสตง." คาด! วันนี้คืบหน้าครึ่งทาง พร้อมหารือพนักงานสอบสวน ยืนยันจำนวนผู้สูญหายที่แท้จริง ป้องกันการตกค้าง
ความคืบหน้าล่าสุดกรณีค้นหาร่างผู้ศูนย์หายจากเหตุการณ์ตึกสตง.ถล่ม
พ.ค. 2568 นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยความคืบหน้าประจำวันภารกิจค้นหาผู้ติดค้างในอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า วันนี้ในโซน D สามารถเปิดพื้นที่ได้ทั้งหมด
จึงเหลือแค่ โซน C2 และ C3 ที่เชื่อมกับอาคารจอดรถ ซึ่งคาดว่าคนที่ลงจากบันไดหนีไฟต้องวิ่งผ่านเพื่อไปลานจอดรถ และเนื่องจากตัวอาคารอาจยุบลงไปจนถึงชั้นใต้ดิน จึงเร่งเปิดพื้นที่บริเวณนั้นที่เหลืออีกประมาณ 2 เมตร
โดยวันนี้จะเน้นเนื้องานในบริเวณดังกล่าวเพื่อเปิดพื้นที่ให้ลึกถึงบริเวณพื้นชั้นใต้ดินให้ได้ ซึ่งหากผู้ที่จะหนีไปบริเวณลานจอดรถก็คาดว่าจะติดค้างอยู่ในบริเวณนี้ และในส่วนช่องว่างของโถงบันไดลิฟต์ด้านหน้าและลิฟต์ด้านหลัง ก็จะเป็นอีกบริเวณที่จะเน้นทำงานเปิดพื้นที่ให้ถึงบริเวณพื้นชั้นใต้ดินให้ได้ ซึ่งจะทำงานควบคู่ไปกับทางเชื่อมไปลานจอดรถ
ในส่วนของโซน A4 ซึ่งทำงานมาตลอดทั้งคืน เนื่องจากโซนนี้ทีม USAR มีฐานข้อมูลว่าเป็นช่องทางตั้งแต่วันทำงาน 1-2 วันแรก ๆ ที่ว่าหากมุดไปบริเวณโพรงนี้จะเป็นทางเข้าตั้งแต่โซน D4 และเป็นโพรงระนาบกับแนวผนังอาคาร ความกว้างประมาณ 10x15 เมตร
ยังสามารถมุดขึ้นจากชั้นใต้ดินสู่ด้านบนได้ด้วย จึงเป็นอีกจุดที่คาดว่าจะพบผู้สูญหาย เนื่องจากพบสัญญาณคราบน้ำเหลืองและแมลงวัน
ตรงกับข้อมูลที่ว่าผู้สูญหายเดินอยู่บริเวณพื้นชั้นใต้ดิน โซนนี้ ดังนั้นจึงเป็นอีกบริเวณที่วันนี้จะเน้นการทำงานเพื่อให้เข้าถึงผู้สูญหาย คาดว่าวันนี้หากไม่มีอุปสรรคจะสามารถเข้าถึงพื้นชั้นใต้ดินของโซน C ได้ทั้งหมด
สำหรับปัญหาใหญ่คือการตัดผ่าเศษเหล็กและเสาโครงสร้างที่ยังมีความสมบูรณ์ ซึ่งต้องใช้เวลาในการตัดด้วยระบบแก๊สและการเจาะดึงด้วยแรงรถเครื่องจักรขนาดใหญ่
หากสามารถเปิดพื้นที่โซน C2 และ C3 ได้ภายในวันนี้ก็จะถือว่าเปิดพื้นที่ชั้นใต้ดินได้แล้วกว่าครึ่งหนึ่งของอาคารที่พังถล่ม
ทั้งนี้เนื่องจากเราได้ปฏิบัติงานร่วมกับหลายองค์กรเป็นระยะเวลานาน ทีมผู้ร่วมงานบางส่วนจึงอาจจะมีภารกิจอื่นที่ต้องกลับไปทำงาน จึงเริ่มถอนกำลังและเครื่องจักรออกจากพื้นที่
โดยเฉพาะภาคเอกชนที่ปฏิบัติงานมาตั้งแต่อาคารถล่มจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมตามแผนที่กำหนดไว้ อาทิ รถเครื่องจักรใหญ่หมายเลข 10 จากบริษัทแสนสิริ ที่เป็นกำลังหลักมาตั้งแต่ต้นก็ได้ถอนกำลังไปแล้ววานนี้
ทาง กทม. ก็ต้องขอขอบคุณในความร่วมมือกันมาตั้งแต่ต้นมา ณ โอกาสนี้ด้วย ซึ่งการถอนกำลังรถเครื่องจักรบางส่วนของภาคเอกชนไปนั้น ก็ยังไม่มีผลกระทบกับหน้างาน
เนื่องจากขณะนี้เรายังมีรถเครื่องจักรขนาดใหญ่อีก 6 คัน ที่ปฏิบัติงานได้ตามแผนที่กำหนด และหากเสียหายก็ยังมีรถทดแทนอยู่อย่างต่อเนื่อง


