"ผบ.ทหารสูงสุด" ตรวจสุวรรณภูมิ สแกนช่องโหว่ ป้องกันยาเสพติด
"ทรงวิทย์" ผบ.ทสส. ลงพื้นที่ "สนามบินสุวรรณภูมิ" ตรวจระบบด่านฟ้า-คลังสินค้า สแกนช่องโหว่ปราบ "ยานรก" เตรียมเสนอ ครม. อุดก่อนลักลอบข้ามชาติบานปลาย
พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือ ศอ.ปชด. เดินทางไปตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ
โดยมีผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ผู้แทนกรมศุลกากร และผู้แทนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เข้าร่วม
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวเปิดการประชุม ว่า การประชุมในวันนี้ มีขึ้นเพื่อบูรณาการการทำงานในเรื่องของการต่อต้านยาเสพติด ที่จะผ่านทางด้านท่าอากาศยานและคลังสินค้า
สืบเนื่องจาก 2 เดือนที่แล้ว นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ และประสานงานกำกับดูแลนโยบายตามแนวชายแดนที่มีผลต่อความมั่นคง ซึ่งในนั้นมีรายละเอียดอยู่ 3 เรื่อง ประกอบด้วย ปัญหา call center เรื่องยาเสพติด และการค้ามนุษย์
โดยมีคณะกรรมการ คือ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการทหารบก
หากงานแบ่งออกไป 3 ส่วน คือส่วนของ call center และค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นงานที่มี task force ของตำรวจอยู่แล้ว โดยมี จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับผิดชอบ เลยได้ตั้งมาเป็น ฉก.888 ซึ่งดูแลรับผิดชอบเรื่อง call center และค้ามนุษย์ ตั้งแต่ต้นทาง
โดยเรื่องของยาเสพติด ก็จะมีทั้งเข้าและออก เข้าก็คือสารตั้งต้น ซึ่งมีหลายประเภทมาก เป็นประเภทที่อยู่ในประกาศที่เราห้าม และประเภทที่ไม่ได้อยู่ในกำหนดอะไรเลย อย่างเช่น คาเฟอีน
โดยวันนี้การตรวจพบยาบ้า 70% ที่เป็นเม็ด คือคาเฟอีน อันนี้ต้องเป็นเรื่องที่ต้องหารือกัน เพื่อแก้ช่องโหว่ที่เกิดขึ้นของกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง สมช. กระทรวงพาณิชย์ และอย.
ส่วนทางอากาศก็มี port of country ตรวจตั้งแต่เข้ามา โดยมีกองทัพอากาศ เข้ามาดูแลขั้นต้น ก็ทราบว่ามี Airport Interdiction Task Force (AITF) นี่ก็เป็นหนึ่งเหตุผลที่ตนมาวันนี้ เพื่อเข้าใจวิธีการต่างๆ เพราะต้องทำงาน
โดยมีเป้าหมายว่าไม่ได้ต้องการไปเปลี่ยนกระบวนการดำเนินการต่างๆ อยากจะมาเข้าใจการทำงานกับหน่วยงานต่างๆให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะต้องรายงานต่อรัฐบาลในเดือนกันยายนนี้ รวมถึงปัญหาต่างๆตั้งแต่จำนวนคนไม่พอ อุปกรณ์ไม่พอ นโยบายที่ไปคนละทาง และสุดท้ายคืองบประมาณส่วนกลาง ตนก็จะเข้ามาดำเนินการรวบรวมเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้ตรวจเยี่ยมพื้นที่การรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จุดตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระ ขั้นตอนการจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตลอดจนการปฏิบัติงานของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ผ่านหน่วยงาน Airport Interdiction Task Force (AITF)
มีภารกิจครอบคลุมพื้นที่อาคารผู้โดยสาร เขตปลอดอากร และคลังสินค้า พร้อมยังรับฟังรายงานขั้นตอนการตรวจจับวัตถุอันตราย วัตถุต้องห้าม และยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้า–ส่งออกนอกราชอาณาจักร อาทิ เฮโรอีน ยาไอซ์ ยาอี และกัญชา ซึ่งลักลอบส่งออกโดยการพกพา หรือซุกซ่อนในพัสดุที่ตรวจพบในรูปแบบต่างๆ


