กทม. ประกาศเขตภัยพิบัติ ระดับ 2 รับมือผลกระทบแผ่นดินไหว
แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวเมียนมากระทบ กทม. หลายจุด ทางการเร่งสำรวจความเสียหาย พร้อมเฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อกและให้ความช่วยเหลือประชาชน พร้อมออกประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยในพื้นที่ ระดับ 2
ด้วยวันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 13.20 น. ได้เกิดสถานการณ์แผ่นดินไหว ขนาดประมาณ 7.5 ใกล้เมืองมัณดาเลย์ ประเทศเมียนมา ห่างจากอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประมาณ 366 กิโลเมตร และแรงสั่นสะเทือนส่งผลถึงประเทศไทยภาคเหนือ ภาคกลาง โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครหลายจุด ซึ่งมีผลกระทบกับอาคารต่างๆ ในพื้นที่หลายเขต ซึ่งขณะนี้สถานการณ์แผ่นดินไหว
ดังกล่าวยังอาจสามารถก่อให้เกิดอาฟเตอร์ช็อกได้ ทำให้กรุงเทพมหานครยังคงต้องเร่งสำรวจพื้นที่ความเสียหาย และเฝ้าระวังในหลายพื้นที่ พร้อมทั้งเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนพร้อมการแก้ไขพื้นที่ที่อาจยังมีอันตรายและมีผลกระทบต่อสาธารณชน อันเป็นสาธารณภัยตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550
ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการจัดการสาธารณภัยให้เป็นไปตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2564- 2570 ผู้อำนวยการกรุงเทพมหานคร จึงประกาศให้พื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในเขตพื้นที่ประสบภัยดังกล่าว ภายใต้พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2564- 2570 และแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร ในการบริหารจัดการสาธารณภัยระดับที่สอง โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นผู้บัญชาการ หรือแผนอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนกฎหมายระเบียบ คำสั่งประกาศ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเร็วต่อไป
ประกาศ ณ วันที่ 28 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2568
เปิดหลักเกณฑ์เตือนภัยพิบัติระดับ 2 ในประเทศไทย
หลักเกณฑ์การประกาศเตือนภัยพิบัติระดับสองในประเทศไทย โดยทั่วไปหมายถึง สถานการณ์ภัยพิบัติที่มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงขึ้น หรือมีความรุนแรงปานกลางและส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในวงจำกัด ซึ่งจำเป็นต้องมีการเตรียมพร้อมและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
โดยทั่วไปแล้ว การประกาศเตือนภัยพิบัติในประเทศไทยจะแบ่งออกเป็นระดับต่างๆ ซึ่งแต่ละระดับจะมีความหมายและแนวทางการปฏิบัติที่แตกต่างกันไป แม้ว่ารายละเอียดของหลักเกณฑ์อาจแตกต่างกันไปบ้างในแต่ละประเภทของภัยพิบัติ (เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว สึนามิ) แต่โดยทั่วไปแล้ว ระดับสองมักจะมีลักษณะดังนี้:
ลักษณะของสถานการณ์ (ตัวอย่าง):
น้ำท่วม: ระดับน้ำในแม่น้ำหรือแหล่งน้ำเริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มที่จะล้นตลิ่งในบางพื้นที่ หรือมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่ง
แผ่นดินไหว: เกิดแผ่นดินไหวขนาดปานกลางที่อาจรู้สึกได้ในวงกว้าง และอาจมีความเสียหายเล็กน้อยในบางพื้นที่
สึนามิ: มีการตรวจพบแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในทะเลที่อาจก่อให้เกิดคลื่นสึนามิ และมีการคาดการณ์ว่าคลื่นอาจเดินทางมาถึงชายฝั่งภายในระยะเวลาหนึ่ง
พายุ: พายุมีกำลังปานกลาง มีลมกระโชกแรงและฝนตกหนักในบางพื้นที่
แนวทางการปฏิบัติ:
เมื่อมีการประกาศเตือนภัยพิบัติระดับสอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนควรดำเนินการดังนี้:
ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด: รับฟังข่าวสารและประกาศจากหน่วยงานราชการอย่างต่อเนื่อง
เตรียมพร้อมรับมือ: ตรวจสอบสิ่งของจำเป็น เช่น น้ำดื่ม อาหารแห้ง ไฟฉาย ยาสามัญประจำบ้าน และเตรียมพร้อมสำหรับการอพยพหากจำเป็น
เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง: ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยควรสังเกตการณ์สถานการณ์โดยรอบ หากพบความผิดปกติให้รีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ปฏิบัติตามคำแนะนำ: ปฏิบัติตามคำแนะนำและประกาศจากหน่วยงานราชการอย่างเคร่งครัด
ความสำคัญของการประกาศเตือนภัยระดับสอง:
การประกาศเตือนภัยระดับสองมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น และมีเวลาในการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินได้
ข้อควรทราบ:
ระดับการเตือนภัยพิบัติอาจมีชื่อเรียกหรือสัญลักษณ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละหน่วยงานหรือแต่ละประเภทของภัยพิบัติ
รายละเอียดของหลักเกณฑ์และแนวทางการปฏิบัติอาจมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์และความเหมาะสม
หากท่านต้องการทราบหลักเกณฑ์การประกาศเตือนภัยพิบัติระดับสองสำหรับภัยพิบัติประเภทใดประเภทหนึ่งโดยเฉพาะ ควรตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ


