กรมราชทัณฑ์แจง6ประเด็นคลี่ปมผกก.โจ้ไม่ได้ถูกทำร้ายเสียชีวิตในเรือนจำ
กรมราชทัณฑ์ แจงยิบ6ประเด็นคลี่ปม ผกก.โจ้ ย้ำไม่ได้ถูกทำร้ายเสียชีวิตในเรือนจำ พร้อมตรวจสอบเจ้าหน้าที่ กรณีญาติร้องทุกข์หากใช้อำนาจโดยมิชอบ จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ชี้แจงเพิ่มเติม กรณีการเสียชีวิตของผกก.โจ้ หรือ ข.ช.ธิติสรรค์ อุทธนผล
ผู้ต้องขังคดี ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อเสรีภาพ
ความผิดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต
1.ประเด็นเกี่ยวกับการรักษา
ข.ช.ธิติสรรค์ นอกจากมีโรคประจำตัวที่รักษาโดยการรับประทานยาแล้ว
พบว่า เคยปรึกษาแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ในเรื่องปัญหาการนอน
ความวิตกกังวลเรื่องของคดีความและการดำเนินชีวิตในเรือนจำฯ
โดยมีการนัดหมายติดตามการรักษา
2.ประเด็นปัญหาการกระทบกระทั่งกับเจ้าพนักงานเรือนจำ
เมื่อวันที่ 8มกราคม 2568 ข.ช.ธิติสรรค์ฯ ได้นำกล้องถ่ายรูปของเรือนจำฯ ไปถ่ายภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต
เจ้าพนักงานเรือนจำจึงยึดคืนแต่ผู้ต้องขังไม่ส่งคืน มีการพูดจาโต้เถียงกัน
โดยไม่มีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกาย
เรือนจำฯ จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง
กรณีผู้ต้องขังถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยข้อหาแสดงกิริยาและวาจาไม่เหมาะสมต่อเจ้าพนักงาน
ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของเรือนจำเรื่องอยู่ระหว่างดำเนินการสอบข้อเท็จจริง
จึงต้องดำเนินการย้ายผู้ต้องขังจากแดน 7 ไปยังแดน 5 เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568
3.ประเด็นห้องคุมขัง
ปกติเป็นห้องที่ให้ผู้ต้องขังอยู่ 4 - 5 คน แต่ให้อยู่เพียงคนเดียว
ไม่ต้องแออัดกับผู้ต้องขังอื่น และเป็นห้องที่ใช้คุมขังช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น
ส่วนเวลากลางวันผู้ต้องขังสามารถออกไปทำกิจกรรมได้ตามปกติเช่นเดียวกับผู้ต้องขังอื่น
โดยไม่มีการคุมขังอยู่ภายในห้องควบคุมแต่อย่างใด จึงมิใช่เป็นการบังคับโทษขังเดี่ยวตามที่ปรากฏในข่าว
โดยห้องคุมขังมีขนาดพื้นที่ 8.74 ตารางเมตร
ซึ่งภายในประกอบด้วยพื้นที่นอน พื้นที่อาบน้ำ สุขา พัดลมดูดอากาศ พัดลมเพดาน มีไฟส่องสว่าง
จึงไม่ใช่เป็นการคุมขังเพื่อให้เกิดการทรมานตามที่สื่อมวลชนกล่าวอ้างแต่อย่างใด
4. ประเด็นแฟนสาวและน้องสาวของผู้ต้องขังยื่นคำร้องเรียนขอความเป็นธรรม
ถึงผู้บัญชาการเรือนจำฯ
กรณีผู้ต้องขังถูกกลั่นแกล้ง และใช้ความรุนแรงถูกทำร้ายร่างกายจากเจ้าพนักงานเรือนจำ
เหตุเกิด เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568
เรือนจำฯ จึงได้ส่งผู้ต้องขังเข้ารับการตรวจจากแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ จำนวน 2 ครั้ง
เมื่อวันที่12 มกราคม 2568 และวันที่ 16 มกราคม 2568
โดยแพทย์ไม่ได้ระบุ รอยฟกช้ำเกิดจากการทำร้ายร่างกายตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าว
ผู้บัญชาการเรือนจำได้ตั้งคณะกรรมการ สอบข้อเท็จจริงดังกล่าว
ต่อมา ข.ช.ธิติสรรค์ฯ ไม่ประสงค์จะให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนต่อ
จึงขอให้ยุติเรื่องพร้อมลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งไม่ได้เกิดจากการบังคับ
5. ประเด็นเรื่องอาหาร
กรมราชทัณฑ์ โดยกองบริการทางการแพทย์ และหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เรือนจำ จะกำหนดเมนูอาหาร สารอาหาร และพลังงานที่ผู้ต้องขังจะได้รับ คุณภาพวัตถุดิบ และการตรวจสอบอาหาร
โดยเรือนจำกลางคลองเปรม ได้จัดแสดงป้ายรายการอาหารผู้ต้องขังที่จัดเลี้ยงประจำวันที่ 1 - 31 ของทุกเดือน
ในปีงบประมาณ 2568 ให้ผู้ต้องขังและญาติรับทราบ
สำหรับการตักอาหารแจกจ่ายในแต่ละมื้อ จะมีเจ้าพนักงานเรือนจำคอยควบคุม
เพื่อให้ปริมาณอาหารมีความเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ
6. ประเด็นของผ้าขนหนู
กรมราชทัณฑ์ขอเรียนว่า จากการตรวจสอบเป็นผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดตัวที่กรมราชทัณฑ์จัดสรรแจกให้กับเรือนจำ
ถ้าเป็นของผู้ชาย มีขนาดความกว้าง 23 นิ้ว (59 เซนติเมตร) ความยาว 44 นิ้ว (112 เซนติเมตร) สีน้ำตาลเข้ม ถ้าเป็นของผู้หญิง มีขนาดความกว้าง 22 นิ้ว (56 เซนติเมตร) ความยาว 47 นิ้ว (120เซนติเมตร) สีฟ้า
กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการชันสูตรถึงสาเหตุการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการ
โดยจะมีคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย
เข้าร่วมสังเกตการณ์ขอยืนยันว่า ไม่มีเจ้าพนักงานเรือนจำหรือผู้ต้องขังรายใดทำร้ายหรือทำให้ผู้ต้องขังถึงแก่ความตาย
เรือนจำได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่ช่วงผู้ต้องขังเดินเข้าห้องขังตั้งแต่เวลา 15.04 ถึงเวลา 20.25 น. ปรากฏว่า ไม่มีสิ่งผิดปกติและไม่มีผู้ใดเข้าไปในห้องคุมขังอย่างชัดเจน ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต
รวมทั้งเพื่อเป็นหลักประกันความโปร่งใสและเป็นธรรม
จึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งระดับกรม โดยมีหน่วยงานภายนอก ได้แก่
- สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
- กรมการปกครอง เข้าร่วมเป็นกรรมการ
คณะกรรมการฯ ระดับเรือนจำ มีหน่วยงานภายนอก ได้แก่ สำนักงาน ป.ป.ส. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมคุมประพฤติ
อนึ่ง กรณีการร้องทุกข์ กรมราชทัณฑ์จะตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดเพื่อให้ความจริงปรากฏ หากพบว่า เจ้าหน้าที่มีการกระทำการใดๆ ที่ฝ่าฝืนระเบียบทางราชการ ใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป


