posttoday

ราชทัณฑ์ แจงเคส "สารวัตรโจ้ คลุมถุงดำ" เสียชีวิต อยู่ระหว่างรอผลชันสูตร

08 มีนาคม 2568

กรมราชทัณฑ์ ชี้แจงกรณี "สารวัตรโจ้ คลุมถุงดำ" อดีตผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ เสียชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม ย้ำอยู่ระหว่างรอผลชันสูตร

กรมราชทัณฑ์ ชี้แจงกรณี "สารวัตรโจ้ คลุมถุงดำ (ธิติสรรค์ อุทธนผล)" อดีตผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ เสียชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

ด้วยกรมราชทัณฑ์ ได้รับรายงานจากเรือนจำกลางคลองเปรมว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 7 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 20.50 น.

 

เจ้าพนักงานเรือนจำปฏิบัติหน้าที่เวรพยาบาลได้แจ้งเหตุผู้ต้องขังเสียชีวิต 1 ราย 

 

ทราบชื่อ ข.ช.ธิติสรรค์ หรือ โจ้ อุทธนผล คดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อเสรีภาพ ความผิดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ                 

 

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต นับตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2564 ตามหมายจำคุกระหว่างอุทธรณ์ฎีกา

 

ต้องจำมาแล้วในเรือนจำ 3 ปี 6 เดือน 13 วัน โดยรับตัวผู้ต้องขังเข้าคุมขังเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2564 ปัจจุบันถูกคุมขังที่ห้องแยกการควบคุม แดน 5  

เรือนจำฯ ได้ตรวจสอบประวัติการรักษาพบว่า ข.ช.ธิติสรรค์ฯ มีโรคประจำตัว คือ ภาวะหัวใจสั่น (Essential tremor) มีไขมันในเลือดสูง (Dyslipidemia) และมีอาการป่วยด้วยโรคทางจิตเวชวิตกกังวล (Anxiety disorder)

 

ผู้กำกับโจ้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล

ซึ่งได้รับการรักษาและรับยาต่อเนื่อง โดยพบจิตแพทย์ครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และมีนัดพบจิตแพทย์ในเดือนเมษายน 2568

 

ขณะควบคุมในเรือนจำฯ ผู้ต้องขังมีพฤติกรรมหวาดระแวงกลัวผู้ต้องขังอื่นทำร้าย เนื่องจาก เป็นอดีตข้าราชการตำรวจ

 

เรือนจำฯ จึงได้รับคำร้องของผู้ต้องขังและพิจารณาอนุญาตให้แยกการควบคุมจากผู้ต้องขังอื่น และยังเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆในเรือนจำได้เป็นปกติ 


จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 ช่วงเที่ยงผู้ต้องขังได้รับการเยี่ยมเยียนจากภรรยา          ซึ่งเจ้าพนักงานเรือนจำไม่พบเหตุผิดปกติแต่อย่างใด

 

ต่อมาเมื่อเวลา 20.25 น. เจ้าพนักงานเวรรักษาการณ์ ขณะกำลังเดินไปจ่ายยาประจำตัวให้กับ ข.ช.ธิติสรรค์ฯ พบว่า ผู้ต้องขังนั่งหลังพิงกับประตูห้องขัง จึงได้พยายามเรียก

 

แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้แจ้งพัศดีเวรฯ และพยาบาลเวรฯ เข้าเปิดห้องขังเพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนตามหลักวิชาชีพ

แต่พบว่า ผู้ต้องขังใช้ผ้าขนหนูขนาดเล็กผูกคอกับประตูห้องขัง ไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียก    ไม่รู้สึกตัว ปลายนิ้วมือซีดเขียวคล้ำ ไม่พบชีพจรบริเวณหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ

 

จึงได้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ ในเบื้องต้น เรือนจำฯ ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าทางเดินของห้องขังผู้ต้องขังดังกล่าว ซึ่งไม่พบว่ามีผู้ใดเข้าออกห้องดังกล่าวแต่อย่างใด

 

พร้อมทั้งแจ้งพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ แพทย์ เจ้าพนักงานปกครอง เพื่อดำเนินการชันสูตรพลิกศพตามกฎหมาย เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต พร้อมทั้งจะได้เชิญญาติเพื่อรับทราบต่อไป 

 

กรมราชทัณฑ์ อยู่ระหว่างรอผลการชันสูตรถึงสาเหตุการเสียชีวิต และขอยืนยันว่า    ไม่มีเจ้าพนักงานเรือนจำหรือผู้ต้องขังรายใดทำร้าย ข.ช.ธิติสรรค์ฯ และขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้ต้องขัง

 

ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เป็นที่ปรากฏโดยทันที และขอเรียนว่า เรือนจำฯ ได้ยึดถือปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดอย่างเคร่งครัด

 

โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ต้องขังและดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชนภายใต้มาตรฐานการปฏิบัติงานด้านการควบคุมผู้ต้องขัง (SOPs)

 

และการปฏิบัติตามข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำขององค์การสหประชาชาติในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง (ข้อกำหนดแมนเดลา) เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ต้องขังทุกคน                   

 

ราชทัณฑ์ แจงเคส "สารวัตรโจ้ คลุมถุงดำ" เสียชีวิต อยู่ระหว่างรอผลชันสูตร

 

ทั้งนี้ พันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ “ผู้กำกับโจ้” เคยเป็นนายตำรวจที่มีอนาคตสดใส แต่ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564 ได้มีคลิปวิดีโอเผยแพร่ทางโลกออนไลน์

 

ซึ่งแสดงให้เห็นว่า “ผู้กำกับโจ้” และลูกน้องใช้ถุงดำคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ เพื่อขู่รีดเงิน จนผู้ต้องหาเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ

 

เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศ และนำไปสู่การจับกุม “ผู้กำกับโจ้” ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

 

ในปี พ.ศ. 2566 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้จำคุกตลอดชีวิต โดยศาลชั้นต้นเคยตัดสินประหารชีวิต แต่ลดโทษเนื่องจากจำเลยให้การเป็นประโยชน์

 

ข่าวล่าสุด

กทม. คุมเข้มมาตรการ "พลุ-โคมลอย" ช่วงปีใหม่