posttoday

เกาะติดน้ำท่วมภาคใต้เข้าสู่วันที่14ตาย29เดือดร้อน 664,173 ครัวเรือน

05 ธันวาคม 2567

ภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดแผนตั้งรับเชิงรุก กระจายกำลัง 4จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง รับสถาการณ์ฝนตกหนัก ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม มหาดไทยเสนอครม.อนุมัติงบ 5,039,793 ล้านบาท กำชับจังหวัดเร่งสำรวจความเสียหายจ่ายเงินเยียวยา

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานน้ำท่วมภาคใต้ เข้าสู่วันที่ 14 จากสถานการณ์ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากสาธาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลหลาก ระหว่าง 22 พ.ย.- 5 ธ.ค.2567 ในพื้นที่10จังหวัด

ประกอบด้วย ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ครอบคลุมพื้นที่ 87 อำเภอ 538 ตำบล 3,729 หมู่บ้านประชาชนได้รับ ผลกระทบ 664,173 ครัวเรือน รวมมีผู้เสียชีวิต 29 ราย (จ.พัทลุง 2 ราย สงขลา 10 ราย ปัตตานี 7 ราย ยะลา 5 ราย นราธิวาส 4 ราย นครศรีธรรมราช 1 ราย) 

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 5จังหวัด ประกอบด้วย นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ครอบคลุมพื้นที่ 22 อำเภอ 161 ตำบล 1,034 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 122,482 ครัวเรือน (ที่มา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
 

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยแผน"ตั้งรับในเชิงรุก"ว่า ทีม ปภ.ได้ตั้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (ส่วนหน้า) ที่จังหวัดนราธิวาส กระจายกำลังทำงานใน 4 จังหวัดภาคใต้ ที่ สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส รวมกว่า 680 หน่วย ทั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล เครื่องสูบส่งน้ำ รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถประกอบอาหารพร้อมอุปกรณ์ รถบรรทุกน้ำ รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว เรือชนิดต่าง ๆ รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 จำนวน 1 ลำ พร้อมทีมนักบินและเจ้าหน้าที่กู้ภัยบนอากาศยาน “The Guardian Team”

ทีมปภ.ทำงานร่วมกับจังหวัดในการเร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ การอพยพ เคลื่อนย้าย และช่วยเหลือผู้ประสบภัย การขนย้ายลำเลียงวัสดุอุปกรณ์และสิ่งของช่วยเหลือ รวมถึงแจกจ่ายอาหารและน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ช่วงวันที่ 4-5 ธันวาคม 2567 คาดว่าจะฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะโซนภาคใต้ตอนล่าง ซึ่ง ปภ.ได้แจ้งเตือนจังหวัดและพี่น้องประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์แล้ว 

ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3ธ.ค.67 อนุมัติงบประมาณช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ รวมกว่า 5 แสนครัวเรือน เป็นเงินรวมกว่า 5,039,793 ล้านบาท โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนที่ ครม. ได้มีมติเห็นชอบในช่วงเดือนกันยายน 2567

นอกจากนี้ ปภ.ได้กำชับให้จังหวัดที่ประสบภัยเตรียมในขั้นตอนของการสำรวจข้อมูลความเสียหาย เพื่อให้ส่งข้อมูลเข้าระบบได้อย่างรวดเร็ว และจะได้เร่งประชุมซักซ้อมแนวทางกับจังหวัดเพื่อให้เงินช่วยเหลือต้องถึงมือพี่น้องประชาชนอย่างรวดเร็ว ทีม ปภ.จะปักหลักช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกคนอย่างเต็มความสามารถและต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายกลับสู่สภาวะปกติ 

สำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยสามารถติดตามข้อมูลการแจ้งเตือนเพิ่มเติม รวมไปถึงแนวทางการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยในช่วงที่เกิดสถานการณ์ และการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ได้ทาง 

  • Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM 
  •  X @DDPMNews  
  • ขอความช่วยเหลือได้ทาง Line Official Account “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” 
  • เพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง  

 

  • ประกาศ สทนช. ฉบับที่ 21/2567  เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในภาคใต้ 5 - 11 ธ.ค. 67 ดังนี้

1. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทัน บริเวณ จ.ชุมพร ระนอง ภูเก็ต ตรัง สตูล สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส 

2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณ จ.ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สงขลา ยะลา และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่โดยเฉพาะเขื่อนบางลาง จ.ยะลา ปัจจุบันปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีความเสี่ยงอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของเขื่อน ให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบบริเวณท้ายเขื่อนน้อยที่สุด และให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเขื่อนด้วย

3. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขัง ในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลัก
และลำน้ำสาขาของ คลองชุมพร แม่น้ำหลังสวน แม่น้ำตาปี คลองท่าดี คลองชะอวด แม่น้ำตรัง คลองลำ คลองท่าแนะ คลองอู่ตะเภา แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำโก-ลก และคลองตันหยงมัส

 

ข่าวล่าสุด

Adobe Firefly รวมพลังโมเดลสร้างวีดีโอ สู่การใช้งาน Runway