ตำรวจนครบาลไล่วงจรปิดคดีสังหารหมู่เวียดนาม 1ใน 6 เป็นผู้ลงมือ

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 67 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. แถลงว่า คดีชาวเวียนามเสียชีวิต 6ศพในโรงแรมชื่อดังย่านราชประสงค์ เมื่อ16 ก.ค. 67 จากการไล่เรียงไทม์ไลน์ ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 3 คน หญิง 3 คนเดินทางมาคนละวัน เช็กอินเข้าโรงแรมต่างวันและเวลา บางคนเดินทางเข้ามาไทยหลายครั้ง กล้องวงจรปิดการมาเช็กอินที่โรงแรมมาด้วยตัวเองไม่มีคนอื่นแปลกปลอมมาพัก 

เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 67 ผู้ตายทั้ง 6 เข้าพักหมายเลขห้อง 502 ไม่มีบุคคลอื่น ก่อนพบเป็นเวลา 16.30 น. มีการสั่งอาหารจากโรงแรมที่นำส่งตั้งแต่ 11.42 น. ประกอบด้วย ข้าวผัด 5 จาน ต้มยำกุ้ง 4 ผัดผัก 4 ผัดผักบุ้ง 1 จาน และแก้วน้ำชา 6 ใบ และรอบต่อมามีการโทรฯสั่งข้าวผัดเพิ่มอีก 1 จาน เป็นจานที่ 6 

เวลา13.51 น.มีภาพพนักงานโรงแรมเข้าไปส่งอาหารเพียง 6 นาทีมีผู้หญิงซึ่งเป็นเจ้าของห้องรับอาหารและเครื่องดื่มคือน้ำชา พนักงานโรงแรมบอกว่าจะชงชาให้ แต่ผู้หญิงแจ้งว่าไม่ต้อง ส่วนพิสูจน์หลักฐานพบสารไซยาไนด์ในกระบอกน้ำและแก้วน้ำทั้งหมด 6 ใบ ดังนั้น 1 ใน 6 คน จึงเป็นผู้ก่อเหตุ 

ส่วนสาเหตุการใช้ไซยาไนด์ เกิดจากปมติดหนี้ 10 ล้านบาท และมีการทวงถามมาตลอดและนัดหมายจะไปเคลียร์ที่ญี่ปุ่นแต่วีซ่าไม่ผ่าน จึงนัดมาคุยกันที่ประเทศไทย จนเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ ผลการตรวจสอบกระเป๋าเดินทางทั้ง 8 ใบ ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่พบเอกสารการฟ้องร้องที่ดินตั้งแต่ปี 2565 

ตำรวจฝ่ายสืบสวนนครบาลประสาน ตม. และสถานทูตเวียดนาม ตรวจสอบรายละเอียดว่าผู้ตายทั้งหมดทำธุรกิจใด ขณะที่ญาติสามีภรรยาผู้เสียชีวิตให้ข้อมูลว่า คู่ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทำถนนที่เวียดนาม ส่วนธุรกิจที่อ้างว่าจะมีการลงทุนคือสร้างโรงพยาบาลในญี่ปุ่น รายละเอียดนอกจากนี้อยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม.