posttoday

“ปานปรีย์” เตือนเมียนมาอย่ารุกล้ำ หลังกระสุนปืนตกข้ามมาฝั่งไทย

21 เมษายน 2567

“ปานปรีย์ ” เตือนฝั่งเมียนมาให้ระมัดระวัง ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์รุกล้ำข้ามเขตแดน ไม่ว่าจะทางบก หรือทางอากาศ รวมถึงการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ อย่าให้เข้ามาในประเทศไทย รวมถึงห้ามให้ประชาชนไทยได้รับอันตราย

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมาซึ่งมีผู้อพยพหนีภัยสงครามมายังแม่สอดเป็นจำนวนมากว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชาวเมียนมาข้ามมาฝั่งไทย ก่อนหน้านี้เราเคยมีกรณีชาวเมียนมาข้ามฝั่งมาไทย พอเหตุการณ์สงบ ก็ข้ามฝั่งกลับไป ซึ่งตอนนี้ได้รับรายงานว่า มีชาวเมียนมา ข้ามมาฝั่งไทย จำนวน 3,000 คน ซึ่งอยู่ในการดูแลของกระทรวงมหาดไทย

 

“ปานปรีย์” เตือนเมียนมาอย่ารุกล้ำ หลังกระสุนปืนตกข้ามมาฝั่งไทย

 

ส่วนกรณีที่มีกระสุนตกมายังบริเวณกลางแม่น้ำเมยใกล้กับฝั่งประเทศไทยจนส่งผลให้เกิดกลุ่มควัน และมีกระสุนปืนจากฝั่งเมียนมายิงเข้ามายังฝั่งไทย กระสุนถูกยิงทะลุหน้าต่างบ้านหลังหนึ่ง ในต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด นายปานปรีย์ ระบุว่า ทั้งสองกรณีไม่ได้สร้างความเสียหาย และไม่ได้รับรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ และเราได้ทำการเตือนทางฝั่งเมียนมาว่า ให้ระมัดระวัง เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์รุกล้ำข้ามเขตแดน ไม่ว่าจะทางบก หรือทางอากาศ รวมถึงการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ อย่าให้เข้ามาในประเทศไทย รวมถึงห้ามให้ประชาชนไทยได้รับอันตราย

 

“ปานปรีย์” เตือนเมียนมาอย่ารุกล้ำ หลังกระสุนปืนตกข้ามมาฝั่งไทย

 

สำหรับความคืบหน้าหลังจากนายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการให้มีการตั้งคณะกรรมการให้ติดตามสถานการณ์เมียนมา จะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้ (22 เม.ย.) ก่อนที่นายกฯ จะบินไป อ.แม่สอด จ.ตาก คงจะได้ข้อสรุปในวันพรุ่งนี้ว่า มีความคืบหน้าอย่างไรขณะเดียวกัน ไทยได้เรียกร้องให้ผ่านทางอาเซียนกดดันให้ทางเมียนมา กลับสู่ความสงบโดยเร็ว ส่วนในเรื่องของการที่ไทยจะเป็นตัวกลางในการเจรจานั้น ตอนนี้กำลังเร่งทำงานกันอยู่ เพราะยังไม่ทราบว่า ต้องเจรจาผ่านกลุ่มใด และ การสู้รบยังเกิดขึ้นตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ก็มีการพูดคุยในระดับหนึ่ง