'บิ๊กโจ๊ก'ตอบปมหมายเรียกครั้งที่3โยนทนายความแจงแทน

เมื่อวันที่ 1เม.ย.2567 เวลา15.45น. พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ต กางเกงสแล็คสีน้ำเงินไปประชุมร่วมกับกลุ่มพรีมูฟเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนตามนัดหมายที่อาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่นายกฯเศรษฐามีคำสั่งแต่งตั้งให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เป็นหัวหน้าคณะทำงานแก้ไขปัญหา

หลังการประชุมเสร็จสิ้น นักข่าวขอสัมภาษณ์ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถามว่า เรื่องอะไร นักข่าวบอกว่า เรื่องหมายเรียกครั้งที่ 3 จากนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยกปฏิเสธ แล้วบอกต่อว่า ไม่ขอตอบ ให้ทนายเป็นคนตอบ ตัวเองขอทำงานก่อนซึ่งเป็นการตอบคำถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะเดินออกไปทันที

นักข่าวก็ถามต่ออีกว่า แบบนี้จะนำไปสู่การออกหมายจับหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตอบว่า ก็ให้ทนายว่าไป และเมื่อถามต่อว่ากังวลใจและมีความเครียดหรือไม่กับสถานการณ์นี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยิ้มแล้วตอบว่า ก็ให้ทำงานก่อน จากนั้นก็ขึ้นรถแล้วบอกต่อว่า และขอให้ถามเรื่องงานแล้วกัน ก่อนที่รถจะปิดประตูออกไปจากสำนักปลัดฯทันที

วันเดียวกันนี้ นายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตอบคำนักข่าวที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เรื่องหมายเรียกครั้งที่ 3 ว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไม่เคยได้รับหมายเรียกสักครั้ง ที่มีข่าวว่าส่งหมายเรียกครั้งที่ 3 ทีมทนายความก็ไม่ยืนยันว่า มีจริงหรือไม่จริงและไม่กังวล

"หากหลังจากนี้ คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดทำคดี จะพิจารณาขอหมายจับของศาล เพราะการออกหมายจับต้องเป็นไปตามกฎหมาย และการออกหมายจับเป็นอำนาจของศาล ซึ่งศาลจะต้องพิจารณาก่อน ถ้าจะใช้เหตุการออกหมายเรียก3ครั้งแล้วมาหรือไม่มา เป็นลักษณะการขัดหมายหรือไม่ขัดหมายศาลจะต้องพิจารณาก่อนว่าเป็นการออกหมายโดยชอบหรือไม่ชอบส่งได้หรือไม่ได้ตามที่กฎหมายกำหนดไว้"