ครั้งแรกสวิสแบ่งปันทรัพย์76ล.เครือข่าย’เหว่ยเซียะกัง’ให้ไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1มี.ค.2567 นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ รองอัยการสูงสุด ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุดให้ลงนามในสนธิสัญญาแบ่งปันทรัพย์สินระหว่างราชอาณาจักรไทยและสมาพันธรัฐสวิส โดยประเทศไทยจะได้รับเงินจำนวน 1,882,332.68 ฟรังก์สวิส หรือประมาณ 76,896,733บาท พร้อมดอกผลที่จะมีขึ้นในภายหน้าจากสมาพันธรัฐสวิส

สืบเนื่องจากสำนักงานปปง.ได้ตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหารายหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด เมทแอมเฟตามีน เกี่ยวข้องกับกลุ่มเหว่ยเซียะกังในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและได้นำทรัพย์สินบางส่วนไปฝากไว้ที่ธนาคารในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

สำนักงานปปง. จึงขอให้อัยการสูงสุด ผู้ประสานงานกลางตาม พรบ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 ดำเนินการยึดอายัดเงินฝากในธนาคารสวิสของผู้ต้องหา ต่อมาพนักงานอัยการได้ฟ้องดำเนินคดีผู้ต้องหา ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ส.ค.2559 ลงโทษจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542มาตรา 3,60,61 วรรคหนึ่ง และพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอให้ทรัพย์สินของผู้ต้องหาตกเป็นของแผ่นดิน ศาลแพ่งมีคำสั่งถึงที่สุดเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2560ให้ทรัพย์สินเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร ซึ่งอยู่ ที่สมาพันธรัฐสวิส พร้อมดอกผล ตกเป็นของแผ่นดิน

เมื่อเดือนธันวาคม 2561 สำนักงานอัยการสูงสุดได้ส่งคำร้องขอไปยังสมาพันธรัฐสวิสเพื่อดำเนินการริบและส่งคืนทรัพย์สินตามคำสั่งของศาลแพ่งดังกล่าวกลับคืนมายังประเทศไทย ซึ่งทางการสมาพันธรัฐสวิสได้ดำเนินกระบวนพิจารณาตามกฎหมายสมาพันธรัฐสวิสแล้ววินิจฉัยให้ส่งคืนทรัพย์สินกลับมายังประเทศไทยภายใต้ข้อตกลงการแบ่งปันทรัพย์สิน (Asset Sharing) ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศที่ผูกพันรัฐบาลทั้งสอง 

สำนักงานอัยการสูงสุด ระด้วยว่าปัจจุบันยังมีทรัพย์สินในคดีค้ายาเสพติด ฉ้อโกงประชาชน อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ทุจริตประพฤติมิชอบ ฟอกเงิน และคดีอื่นๆที่ผู้ต้องหานำไปซุกซ่อนในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ไอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก เกาะเจอร์ซีย์ และเกาะเกิร์นซีย์ ซึ่งกำลังดำเนินการประสานงานเพื่อยึด อายัด และริบทรัพย์อยู่หลายคดีกลับคืนมาประเทศไทย