PM2.5 มาแล้ว! 69 พื้นที่ใน กทม. ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานอยู่ในระดับมีผลต่อสุขภาพ

ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครสรุปผลการตรวจวัด PM2.5 วันที่ 10 ธ.ค. 2566 เวลา 05.00-07.00 น. (3 ชั่วโมงล่าสุด) โดยตรวจวัดได้ 31.8-72.6 มคก./ลบ.ม. โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 49.4 มคก./ลบ.ม. และมีแนวโน้มค่า PM2.5 เพิ่มขึ้น จนเกินมาตรฐาน อยู่ในระดับสีส้ม ซึ่งเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ใน 69 พื้นที่ 

10 พื้นที่ที่ในกทม. ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่

1. เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 72.6 มคก./ลบ.ม.

2.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 68.9 มคก./ลบ.ม.

3.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 68.3 มคก./ลบ.ม.

4.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 66.9 มคก./ลบ.ม.

5.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 66.5 มคก./ลบ.ม.

6.เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน : มีค่าเท่ากับ 65.4 มคก./ลบ.ม.

7.เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 65.0 มคก./ลบ.ม.

8.สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 64.4 มคก./ลบ.ม.

9.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 64.2 มคก./ลบ.ม.

10.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 63.3 มคก./ลบ.ม.

โดยพบว่าปัจจัยที่เกี่ยวข้องคือ (คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่นPM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยา) ในช่วงวันที่ 10-18 ธ.ค. 66 การระบายอากาศค่อนข้างไม่ดี (ยกเว้นวันที่ 18 ธ.ค. 66 การระบายอากาศดี) สภาวะใกล้ผิวพื้นปิดสลับเปิด จึงคาดว่าจะทำให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัว และคาดการณ์วันนี้มีหมอกในตอนเช้า

สำหรับข้อแนะนำในการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ที่อยู่ในเขตพื้นที่ฝุ่นระดับสีส้ม ได้แก่

สำหรับบุคคลทั่วไป: ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น

ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ : ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลียควรปรึกษาแพทย์