สืบศักดิ์ เปิดหน้าแฉ คนโกงเงิน“นักตะกร้อทีมชาติ” เอเชียนเกมส์ ร่วม 10 ล้าน

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 พันตำรวจโทสืบศักดิ์ ผันสืบ, สุริยัน เป๊ะชาญ, พูลศักดิ์ เพิ่มทรัพย์ และ สมพร ใจสิงหล ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนการทำหน้าที่ของคณะกรรมการทีมตะกร้อชุดปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น ผู้จัดการทีม, ผู้ฝึกสอน ทีมตะกร้อทีมชาติไทย ที่ไม่โปร่งใส และมีการเรียกรับเงินจากนักกีฬาทั้งในอดีตและปัจจุบัน
 

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ (6 พ.ย.66)  สืบศักดิ์ โพสต์เฟซบุ๊กหลังโดนข่มขู่ว่า "มาข่มขู่ ว่าให้ระวังกระทบหน้าที่การงาน ไม่ต้องโทรมาแล้วนะครับ ผมแค่จะไปยื่นหนังสือ จากน้องๆ ทีมชาติ ไปส่งผู้แทนสมาคม เฉยๆ อย่ากังวลกันครับ #ทำสิ่งที่ถูกต้อง #ไม่ได้ทำอะไรผิดก็อย่าไปกลัว"

ด้านสืบศักดิ์ ให้ข้อมูลว่า เงินรางวัลในศึก เอเชียน เกมส์ 2023 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ทีมชุดชาย (12 คน) และ ทีมเดียวชาย (5 คน) ที่ได้เหรียญทองทั้งคู่ จะได้เงินรวม 34 ล้าน (คนละ 2 ล้านบาท) โดยทีมชุดหญิง และทีมเดี่ยวหญิง ที่ได้รวม 2 เหรียญทอง ก็จะได้เงินเท่ากัน

ขณะที่โค้ช มี 3 คน จะได้เงินจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ 20% คือ 5.8 ล้านบาท (ประมาณ 1.93 ล้านบาท) ตามเงินรางวัลจากนักกีฬาที่ได้รับจากการแข่งขันอยู่แล้ว

แต่ยังมีการมาหักเงิน 50 เปอร์เซ็นต์ จากประเภททีมเดี่ยวทั้งชายและหญิงรวม 10 ล้านบาท (ทีมละ 5 ล้านบาท) โดยอ้างว่า จะนำเงินไปให้นักกีฬาที่ไม่ได้ติดทีมมา เพราะเป็นคู่ซ้อม แต่เมื่อมาเช็กรายละเอียดจริงๆ เงินของทีมชาติกลับหายไป 3.3 ล้านบาท ส่วนทีมหญิง หายไป 6.75 ล้านบาท รวมเกือบ 10 ล้านบาท

"วันนี้ผมมาเป็นตัวแทนนักกีฬาและหวังว่าคณะกรรมการจะมีความเที่ยงธรรมให้มันถูกต้อง ประเด็นที่อดีตนักกีฬาทีมชาติ และทีมชาติปัจจุบัน ซึ่งคนปัจจุบันไม่กล้าออกมาบอกหรอกถึงเรื่อง เพราะจะมีผลต่อการเก็บตัวในรายการหน้า แต่ด้วยความสนิทส่วนตัว สามารถบอกกันได้ผ่านแชตไลน์" สืบศักดิ์ ผันสืบกล่าว

"สำหรับนักกีฬาเวลาได้เงินจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ จะมี 2 กรณี คือ รับเงินมาแล้วโอนต่อไปยังบัญชีพักเงิน แล้วค่อยนำเงินไปบริหารจัดการต่อ อีกวิธีคือ ถอนเงินมาทั้งหมด ไปนัดเจอกัน และแบ่งเงินกัน เพื่อไม่ให้เกิดหลักฐานอื่นใด จากปัญหาตรงนี้ที่เป็นมานับ 10 ปี วันนี้ไม่หวังสิ่งอื่นใด แต่ขอเพียงการให้มีคณะกรรมการตั้งสอบขึ้นมาก่อน กรอบเวลาคิดว่าน่าจะ 1 สัปดาห์คงจะเริ่มมีความเคลื่อนไหวอะไรมา"

"บางคนเคยออกมาเรียกร้องสมัยก่อนทั้ง พิกุล สีดำ หรือ นิตินัดดา แก้วคำไสย์ แต่รายการต่อๆ มาก็กลับหลุดจากทีมชาติไปเฉยๆ เลย ซึ่ง พิกุล เขาต้องเปลี่ยนอาชีพไปเก็บผลไม้ที่ต่างประเทศ"

"ถ้ามันเป็นไปได้ ก็อยากจะให้ได้เงินรางวัลคืน จากอะไรก็ตาม จะเป็นการเยียวยาของสมาคมฯ ก็ได้ ซึ่งคิดว่ามันเป็นเงินจำนวนมาก"

ด้าน ร้อยโท สุริยัน เป๊ะชาญ กล่าวว่า "ในอดีตการอัดฉีดเงินให้นักกีฬาตะกร้อยังไม่มากเท่านี้ สมัยก่อนที่ผมเล่น คิงส์ คัพ ได้ คนละ 5,000 บาท หลังๆ ที่ผมเล่นได้คนละ 1 ล้านบาท รวม 5 คนสำหรับทีมเดี่ยว ก็เป็น 5 ล้านบาท แต่สุดท้ายถูกแบ่งไปให้ผู้จัดการทีมครึ่งหนึ่ง เราก็ต้องทำตามนั้น พูดอะไรไม่ได้ มีเท่าไร ก็ต้องเอาเท่านั้น"

สำหรับสืบศักดิ์ ผันสืบ เป็นอดีตนักตะกร้อทีมชาติไทย ฉายาโจ้หลังเท้า เขาคือคนแรกๆที่เสิร์ฟตะกร้อด้วยหลังเท้าจนคู่แข่งจับทางไม่ได้

เจ้าตัวประสบความสำเร็จในทีมชาติมากมายโดยได้ไป 12 เหรียญทอง 1 เหรียญเงินในซีเกมส์ ส่วนเอเชียนเกมส์ เขาทำไปได้ทั้งสิ้น 6 เหรียญทองและ 1 เหรียญเงิน ปัจจุบันรับราชการตำรวจในยศ พันตำรวจโท