posttoday

ย้อนประวัติ'บิ๊กสันต์'ผู้ไม่รับเงินเดือนตำรวจหลังไขก๊อกนายกสมาคมกรีฑาฯ

04 ตุลาคม 2566

เปิดใจพล.ต.อ.สันต์ผ่านหนังสือลาออกนายกสมาคมกรีฑาฯรับผิดชอบวืดเหรียญทองกรีฑาเอเชียนเกมส์ ย้อนประวัติอดีตผบ.ตร.ผู้ไม่เคยรับเงินเดือนตำรวจมาตั้งแต่ยศร้อยตำรวจตรี

พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีตผบ.ตร. ปรากฎเป็นข่าวอีกครั้งหลังประกาศลาออกจากนายกสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ หลังเกิดความผิดพลาดในการวางแผนของผู้จัดการทีมในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 2023 ครั้งที่ 19 ณ เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีนโดยไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบของนายกสมาคมฯไปได้และต้องขอโทษที่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวังและก็รู้สึกเหมือนกับประชาชนคนไทยทุกคน

พล.ต.อ.สันต์ ได้เข้ารับตำแหน่งนายกสมาคมกีฬากรีฑาฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 โดยได้รับการร้องขอจากอดีตนักกีฬากรีฑาซึ่งขณะนั้นรับราชการตำรวจให้มาช่วยสมาคมฯ ซึ่งสถานะทางการเงินตกต่ำ มีรายจ่ายมากกว่ารายรับเป็นจำนวนหลายสิบล้านบาท โดยก่อนหน้านั้นเมื่อราว10ปีก่อนก็เคยเป็นอุปนายกในสมาคมฯแห่งนี้มาก่อน

เมื่อเห็นว่าสมาคมฯกีฬาแห่งนี้ไม่มีผลประโยชน์และไม่มีการพนันขันต่อ ประกอบกับมีนักกีฬาที่ต้องดูแลทั้งชายและหญิง ตั้งแต่ระดับยุวชน เยาวชน ประชาชน จำนวนหลายร้อยคนต่อปีมีภาระค่าใช้จ่ายสูงจึงตอบรับเข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งนายกสมาคมกีฬากรีฑาฯ โดยทุ่มเทกำลังหารายได้เข้าสมาคมฯจนหมดภาระหนี้สินและมีเงินเหลือเก็บสะสม สามารถซื้อที่ดินจำนวน 50 ไร่ ที่ตำบลสามโคก จังหวัดปทุมธานีปรับปรุงสร้างเป็นสนามกีฬากรีฑามาตรฐานผ่านการรับรองของสหพันธ์กีฬากรีฑาโลกเป็นแห่งแรกในประเทศไทย

ในคำประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมกีฬากรีฑาฯ ยังให้รายละเอียดว่า พล.ต.อ.สันต์ไปชมการแข่งขันเอเชียนเกมส์ เมืองหางโจวในฐานะประชาชนคนไทยที่ไปเชียร์นักกีฬาด้วยค่าใช้จ่ายเป็นเงินส่วนตัวทั้งหมดไม่ได้ใช้งบประมาณประเทศ หรือของสมาคมฯแม้เลยแต่บาทเดียว และได้เดินออกจากสนามแข่งขันวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ณ สนามหางโจว โอลิมปิก สปอร์ต เซ็นเตอร์ เมืองหางโจว ประเทศจีน หลังจากมีการ DNF ของนักกีฬา (ผมมีความรู้สึกเหมือนท่านทั้งหลาย) และไม่กลับไปดูการแข่งขันอีกเลยจนถึงวันนี้

สำหรับประวัติส่วนตัวงพล.ต.อ.สันต์ เกิดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2487 ปัจจุบันวัย79ปี สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัยในปี 2505 และโรงเรียนนายร้อยตำรวจในปี 2510 เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2544 - 30 กันยายน พ.ศ. 2547 ซึ่งในสมัยรับราชการข้าราชการตำรวจ ด้วยชีวิตส่วนตัวที่มีความร่ำรวยมาตั้งแต่ พล.ต.อ.กระเษียร  ศรุตานนท์ อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจที่รับเลี้ยงพล.ต.อ.สันต์เป็นบุตรบุญธรรม พล.ต.อ.สันต์ได้ยกเงินเดือนตัวเองทั้งหมดให้กับลูกน้องในสำนักงานตัวเองมาตั้งแต่ติดยศร้อยตำรวจตรี