posttoday

ผู้ถือหุ้น ปตท.ขู่ฟ้อง ม.157 ต่อDSIขอให้เร่งสอบคดีผู้บริหาร ปตท.ทำผิด

26 สิงหาคม 2566

ผู้ถือหุ้น ปตท. ร้อง กรมสืบสวนคดีพิเศษ(DSI)ตั้งกรรมการตรวจสอบ ผู้บริหาร ปตท. และ โกลบอลเคมิคอล (GGC)แทรกแซงการสอบสวน และปกปิดทำลายหลักฐาน คดีกล่าวหา ผู้บริหารทำผิด พรบ.หลักทรัพย์ฯ และ ฟอกเงิน ขู่หากไม่ดำเนินการจะฟ้อง ดีเอสไอ ผิดกฎหมายอาญา ม. 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่

 เมื่อวานนี้ 25 สิงหาคม 2566 นายสยามราช ผ่องสกุลในฐานะผู้มีส่วนได้เสียและเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาทน) (GGC) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมีคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC)ได้ส่งหนังสือร้องไปยัง พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสืบสวนคดีพิเศษ (DSI)เพื่อขอให้ คณะ ขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ กรณีมีกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันกระทำความผิด มีพฤติกรรมเข้าไป
แทรกแซงการสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ ปกปิดซ่อนเร้นทำลายพยานหลักฐาน โยกย้ายเจ้าหน้าที่ ที่เป็นพยานบุคคลและเป็นพยาพสำคัญให้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่เพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับคดีในฐานะพยาน ทั้งนี้เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายเพื่อช่วยเหลือผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 15/ และมาตรา 200

ทั้งนี้นายสยามราช ได้อ้างถึงหนังสือฉบับลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 เรื่อง ขอให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันกระทำความผิดตาม พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535,พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2642 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่

โดยได้กล่าวหาผู้บริหาร บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) , บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GGC) บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด(มหาชน) ( PTTOR) และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมกันกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 , พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 , พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ก.ล.ต.และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) รายละเอียดปรากฏตามหนังสือที่ได้อ้างถึง

ซึ่งจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีความคืบหน้าแห่งคดีแต่อย่างใด นอกจากคดีไม่ปรากฏความคืบหน้าแล้ว  ยังปรากฏข้อเท็จจริง จากกลุ่มผู้ถือหุ้น และกลุ่มผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ของ บริษัทปตท.และกลุ่มบริษัทในเครือปตท.ว่า กรณีการครอบงำแทรกแซงบริษัท (Transfer Pricing) และ/หรือการสมยอมราคาน้ำมัน B100 กันนั้น ผู้บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (PTTOR) และบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกันการกระทำความผิด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในบริษัท PTTOR ไม่ให้ความร่วมมือในการเป็นพยาน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ อันแสดงถึงพฤติกรรมเข้าไปแทรกแซงการสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่และปกปิดซ่อนเร้นทำลายพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังได้โยกย้ายเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นพยานบุคคลและเป็นพยานสำคัญในคดีให้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ในฐานะพยานบุคคลที่สำคัญ เพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับคดีและเอกสารต่างๆ ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าทีโดยมิชอบด้วยกฎหมายเพื่อช่วยเหลือผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมาตรา 200

โดยหนังสือฉบับนี้ ขอให้ท่านในฐานะพนักงานสืบสวน/สอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษได้โปรดดำเนินการสอบสวนเป็นการเร่งด่วนว่า ผู้บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (PTTOR) และ/หรือบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด บุคคลใดที่เข้าไปแทรกแซงในการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่กรมลอบสวนคดีพิเศษ โดยการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในบริษัท ไม่ให้ความร่วมมือในการเป็นพยานที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และมีการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นพยานบุคคลและเป็นพยานสำคัญในคดีให้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่เพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับคดีและเอกสารต่างๆ

หากปรากฏขอเท็จจริงดังกล่าว เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม และประโยชน์แห่งความยุติธรรม และประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวน ขอให้ดำเนินการดังนี้

1.มีคำสั่งตามอำนาจหน้าที่ ห้ามมิให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดและเข้าไปเกี่ยวข้องและ/หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และ/หรือให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเพื่อรอผลการสอบสวนเสร็จสิ้น
2.มีคำสั่งตามอำนาจหน้าที่ เรียกพยานบุคคลที่สำคัญมาให้การพร้อมเอกสารสำคัญแห่งคดีโดยด่วน
3.มีคำสั่งตามาอำนาจหน้าที่เพื่อระงับยับยั้งการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง และเป็นพยานบุคคลที่สำคัญ โดยไม่เป็นธรรมนั้นเสีย อันเป็นหลักการคุ้มครองพยานในคดี

อนึ่ง หากท่านไม่ดำเนินการอาจเข้าข่ายในการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมาตรา 200