posttoday

'นพ.โอภาส' รับหมอจบใหม่ไม่พอกับความต้องการทำให้ทำงานหนักเป็นบางจุด

06 มิถุนายน 2566

นพ.โอภาส ปลัดสาธารณสุข รับหมอจบใหม่ไม่พอกับความต้องการส่งผลให้งานหนักบางจุด โดยเฉพาะในโรงพยาบาลศูนย์ฯ เร่งแก้ไขปัญหา กำชับดูแลสวัสดิการลดภาระงานบุคลากร

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงประเด็นที่แพทย์จบใหม่ (อินเทิร์น)จำนวนมากแห่ลาออก โดยอ้างสาเหตุงานหนักเกินไป ว่า วันนี้กระทรวงจะมีการแถลงข่าว ซึ่งจะมีการนำเสนอข้อมูลในภาพรวม เหตุการณ์ที่พี่น้องประชาชนให้ความสนใจ ส่วนยอดแพทย์จบใหม่ที่ลาออกจากราชการมีเท่าไหร่ขอให้เราฟังการแถลง เพราะมีรายละเอียดตัวเลขค่อนข้างเยอะ

เมื่อถามว่านโยบายไม่รับแพทย์จบใหม่เป็นอย่างไร นพ.โอภาส ถามกลับว่า มีนโยบายดังกล่าวด้วยหรือ มีแต่อยากรับเพิ่ม แต่ผู้อนุมัติ ให้รับหรือไม่คือก.พ. และรัฐบาล พร้อมย้ำว่าความต้องการของประชาชนในการเข้ารับบริการด้านสาธารณสุขมีสูง โดยเฉพาะหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่กระทรวงมี บุคลากรจำกัด ต้องขอบคุณพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ได้อนุมัติบุคลากรตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นต้นมา จำนวนกว่า 45,000 อัตรา ทำให้ความกดดันด้านบุคลากรลดลงแต่ยังไม่หมดเนื่องจากความต้องการของประชาชนมีเยอะ 

นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านงบประมาณจากสปสช. ซึ่งให้แบบเหมาจ่ายรายหัว จึงหวังว่าจากนี้จะได้งบประมาณเพิ่มขึ้นให้เท่ากับจำนวนผู้มาใช้บริการ จะสังเกตได้ว่า ทุกอย่างอยู่นอกกันควบคุมของกระทรวงสาธารณสุข ที่ผ่านมาพยายามใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด มาบริการให้กับประชาชน ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน 

ส่วนหลังจากนี้จะเกิดภาวะสมองไหลทางการแพทย์หรือไม่นั้น ปลัดกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า จากนี้คงต้องใช้มาตรการในรายภาคส่วน เพราะบุคลากรจะอยู่ได้ ส่วนหนึ่งมาจากค่าตอบแทน ซึ่งจะต้องมีการเปรียบเทียบกับภาคเอกชน ทางกระทรวงจึงได้เพิ่ม ค่าตอบแทนในส่วนของค่าทำงานล่วงเวลา และสร้างบ้านพัก สวัสดิการให้กับบุคลากรทางการแพทย์อย่างเพียงพอ รวมถึงเรื่องความก้าวหน้าทางวิชาชีพ มีการปรับเลื่อนระดับแพทย์ เป็น ซี9 เป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับพยาบาลมีการพิจารณาปรับเลื่อนระดับเป็น ซี8-ซี9 ตามระเบียบของก.พ. 

ส่วนปัญหาเรื่องเนื้องาน น่าจะเป็นส่วนที่แก้ยากที่สุด เนื่องจากมีความต้องการค่อนข้างมาก แต่หากได้งบประมาณเพิ่มขึ้นทรัพยากรบุคคลเพิ่มขึ้นก็เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ตามลำดับ เบื้องต้นได้กำชับ เรื่องการดูแลสวัสดิการ และภาระงานไม่ให้หนักเกินไป ซึ่งเมื่อดูจากตัวเลขพบว่าภาระงานเริ่มลดลง มีเพียงบางจุดที่ยังมีปัญหา โดยเฉพาะในส่วนของ โรงพยาบาลศูนย์ทั่วไปในตัวเมือง จะมีภาระงานมากกว่าโรงพยาบาลประจำอำเภอ แต่ก็ต้องแก้เป็นจุดๆไป  โดยยึดนโยบายว่า ในพื้นที่จังหวัดเดียวกันแต่ละโรงพยาบาลสามารถเคลื่อนย้ายบุคลากรใช้ร่วมกันได้ แต่โดยภาพรวมถือว่าดีขึ้น 

เมื่อถามว่าเบื้องต้นจะแก้ไขปัญหาแค่จดหมายลาออกได้อย่างไร นพ.โอภาส ระบุว่า ในภาพรวมบุคลากรที่รับเข้าระบบ แต่ละปีประมาณ2,000 คน ที่ลาออกส่วนหนึ่งเป็นแพทย์เพิ่มพูนทักษะ เมื่อเรียนจบแล้ว บางคนอยากจะไปเรียนต่อ ประมาณ 10% ต่อปี แต่ยังมีบุคลากรที่กลับเข้ามาในระบบสัดส่วนที่สูงกว่า ยืนยันว่าหากบุคลากรยังทำงาน ต่อ การกระทรวงบรรจุเข้าสู่ระบบราชการเกือบทุกคน แต่บางครั้ง แค่ที่ไม่ได้เข้าระบบใช้ทุน เช่นแพทย์ที่จบจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่ก็จะไม่อยู่ต่อ