posttoday

อุตตม เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจด่วน!!! ทันทีที่รัฐบาลชุดใหม่เข้าทำงาน

13 กรกฎาคม 2562

เตรียมหารือรองนายกฯ หามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้สอดคล้องเศรษฐกิจโลกที่กำลังผันผวน-เดินหน้าต่อบัตรประชารัฐ พร้อมหนุนนโยบายดันเอสเอ็มอี เข้าตลาด MAI เพิ่้มโอกาสทางธุรกิจ

เตรียมหารือรองนายกฯ หามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้สอดคล้องเศรษฐกิจโลกที่กำลังผันผวน-เดินหน้าต่อบัตรประชารัฐ พร้อมหนุนนโยบายดันเอสเอ็มอี เข้าตลาด MAI เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานเปิดงาน "งานตลาดทุนไทยกับการพัฒนาเอสเอ็มอีไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน" ในงาน mai FORUM 2019: มหกรรมรวมพลังคน mai โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ว่าเตรียมเร่งผลักดันให้ผู้ประกอบการธุรกิจรายเล็ก(SMEs) เข้าจดทะเบียนในตลาด mai เเพื่อพิ่มโอกาสทางธุรกิจสร้างความเข้มแข็ง

รวมทั้ง ยังจะเร่งการปรับตัวของ SMEs ในการใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งจะเชื่อมโยงระบบการเงินจากเครื่องมือต่างๆที่มี รวมทั้งรูปแบบดิจิทัลใหม่ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ พร้อมต่อยอดระบบ เพย์เม้น ที่ได้วางระบบไว้แล้ว

ขณะที่ เรื่องภาษีธุรกิจออนไลน์ นั้นยังต้องดูในรายละเอียดให้รอบครอบก่อนตัดสินใจ ซึ่งการจัดเก็บจะต้องทำให้ผู้ประกอบการบุคคล มองว่าเป็นระบบภาษีมีความเป็นธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบ และต้องเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจด้วย

นายอุตตม กล่าวเสริมว่าหลังจากรัฐบาลชุดใหม่เข้าไปทำงานแล้ว จะมีชุดมาตรการกระตุ้นและดูแลเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับสถานการณ์ความผันผวนเศรษฐกิจโลก ที่ไทยกำลังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจภายนอก

ดังนั้น จะต้องมีมาตรการเข้าไปดูแลเพื่อให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไป โดยขอหารือกับรองนายกฯ ที่ดูแลงานด้านเศรษฐกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเข้าไปดูงบประมาณที่จะดำเนินการว่ามีเท่าใด โดยสิ่งที่ทำนั้นต้องเห็นผลและตรงเป้าหมาย รวมถึงต้องสอดคล้องกับงบประมาณที่มีอยู่ ซึ่งมาตรการที่จะออกมาต้องไม่สร้างผลกระทบต่องบประมาณ

ขณะที่มาตรการด้านเศรษฐกิจที่ออกมานั้น จะพิจารณาตามสภาพความเป็นจริง ซึ่งจะเริ่มหารือทันทีที่เข้าไปทำงานกระทรวงการคลัง โดยยังบอกไม่ได้ว่าจะเริ่มมาตรการช่วงไหน ส่วนเป้าจีดีพีหลายสำนักมองว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตต่ำกว่า 3.5% นั้น คงต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน

"ตอนนี้ยังไม่ได้มองว่าจีดีพีจะต้องเป็นเท่าใด ส่วนปัญหาค่าเงินบาทนั้นมีหน่วยงานดูแลหลัก คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่ผ่านมาทั้ง ธปท.และกระทรวงการคลังปรึกษาหารือกันอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วง" ”นายอุตตมกล่าว

นายอุตตม กล่าวว่าสำหรับนโยบายลดภาษีบุคคลธรรมดา 10% ซึ่งเป็นนโยบายหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ โดยในรื่องภาษีจะต้องไปดูให้ละเอียดรอบคอบว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การดำเนินการใดๆ ต้องให้เกิดความพอดีสมดุล รวมถึงต้องดูเรื่องรายได้รัฐ และต้องพิจารณาถึงความเหลื่อมล้ำกับภาษีนิติบุคคล

ด้วยในขณะนี้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีอัตราสูงสุด 35% แต่ภาษีนิติบุคคลอยู่ที่ 20% ยังมีการเขย่งกันอยู่ จะต้องมาดูว่าทำอย่างไร ปรับเปลี่ยนอย่างไร เพื่อให้ภาพรวมเศรษฐกิจเดินหน้าและเติบโตได้ รวมถึงทำให้ผู้ประกอบการทั้งนิติบุคคล และบุคคลธรรมดาเห็นแล้วเป็นประโยชน์

"เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ขอพูดในฐานะพรรคพลังประชารัฐ เรื่องค่าแรงหลายพรรคพูดถึงโดยมีเป้าหมายระดับ 400 บาทต่อวัน และมากกว่า 400 บาทต่อวัน ซึ่งในการหารือกับพรรคร่วมน่าจะมีแนวทางร่วมกันได้ การปรับขึ้นค่าแรงต้องคู่ไปกับการยกระดับทักษะฝีมือแรงงาน โดยมีโจทย์ใหญ่คือการปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย หากต้องการความยั่งยืนต้องพัฒนาแรงงานไทยให้มีทักษะฝีมือสูงขึ้น รวมถึงบัตรประชารัฐ ยังจะเดินหน้าต่อแน่นอนและจะไม่เปลี่ยนชื่อยังคงใช้ชื่อเดิม" นายอุตตม กล่าว