posttoday

"พรินซิเพิล" แนะลงทุนกองอสังหาฯ-รีท ปันผลดี 4.6–5.4 % ต่อปี

02 กรกฎาคม 2562

นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)พรินซิเพิล เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินทิศทางการลงทุนช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ยังมีความไม่แน่นอนจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยมีปัจจัยมาจากผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ครั้งล่าสุด ที่แม้ว่ามีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาดการณ์ที่ระดับ 2.25 - 2.50%

นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)พรินซิเพิล เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินทิศทางการลงทุนช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ยังมีความไม่แน่นอนจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยมีปัจจัยมาจากผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ครั้งล่าสุด ที่แม้ว่ามีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาดการณ์ที่ระดับ 2.25 - 2.50%

ด้านความขัดแย้งจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามต่อภายหลังการพบกันของ 2 ผู้นำในการประชุม G20 เมื่อวันที่ 28-29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผลออกมาดีตามคาด ทำให้พรินซิเพิล มีมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมและผลลัพธ์การประชุมครั้งนี้ แต่ยังคงต้องติดตามผลการเจรจารอบใหม่ว่าจะทำได้จริงหรือไม่

นายจุมพล กล่าวว่า จากปัจจัยดังกล่าว จะส่งผลดีต่อการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนจากการจ่ายเงินปันผล ซึ่งรวมถึงสินทรัพย์ในกลุ่มกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (รีท) โดยภาพรวมอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลทั่วโลกที่อยู่ในระดับต่ำเป็นปัจจัยดึงดูดกลุ่มนักลงทุนหลายกลุ่มที่มุ่งแสวงหาผลตอบแทน (Search for Yield)เข้าลงทุนในกองทุนอสังหาฯ และรีท ที่จ่ายเงินปันผลจากกระแสเงินสดแก่นักลงทุนในอัตราเงินปันผลเฉลี่ยในปัจจุบัน 4.6–5.4% ต่อปี เพื่อช่วยลดผลกระทบเชิงลบในช่วงที่การลงทุนผันผวน

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.62 กองทุนเปิดพรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม (PRINCIPAL iPROP)ได้รับอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 3 หมื่นล้านบาท จากเดิม 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากกองทุนมีขนาดเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและเพื่อรองรับนักลงทุนสามารถเข้าซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มเติม

กองทุน PRINCIPAL iPROP มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารหมวดอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ผลการดำเนินงานกองทุนฯ สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีมาโดยตลอด เฉลี่ยประมาณ 10% ต่อปีนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนฯ และมีประวัติจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาสนับตั้งแต่ไตรมาส 2/2555 จนถึงปัจจุบัน โดยจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 29 ครั้ง รวม 5.66 บาทต่อหน่วย