posttoday

บลจ.กรุงไทย ชูตลาดหุ้นเกิดใหม่มาแรง ได้ 2 ปัจจัยหนุน

26 มิถุนายน 2562

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย เปิดเผยว่า ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์ บลจ. กรุงไทย มองว่าตลาดหุ้นเกิดใหม่ เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีศักยภาพ มีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนสูงที่สุดในระยะยาว ด้วยเหตุผลสำคัญ 2 ประการคือ เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่( EM) มีศักยภาพการเติบโตสูง และราคาหุ้นยังถูก

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย เปิดเผยว่า ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์ บลจ. กรุงไทย มองว่าตลาดหุ้นเกิดใหม่ เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีศักยภาพ มีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนสูงที่สุดในระยะยาว ด้วยเหตุผลสำคัญ 2 ประการคือ เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่( EM) มีศักยภาพการเติบโตสูง และราคาหุ้นยังถูก

ทั้งนี้ เศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ ) คาดการณ์จีดีพีของตลาดเกิดใหม่เติบโต 4.4 % ในปีนี้ และปี 2563 คาดว่าขยายตัว 4.8 % (เทียบกับ 1.8% และ 1.7% ของตลาดพัฒนาแล้ว) เศรษฐกิจ EM มีศักยภาพการเติบโตสูงเนื่องจาก 4 ปัจจัยดังนี้ 

ปัจจัยที่ 1 โครงสร้างประชากร หลายประเทศ EM มีอายุเฉลี่ยน้อย โดยเฉพาะในแอฟริกาและลาตินอเมริกา สัดส่วนคนวัยทำางานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต

ปัจจัยที่ 2 การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ประเทศ EM ส่วนใหญ่ยังมีโครงสร้างพื้นฐานไม่เพียงพอ จึงมีโอกาสเติบโตจากการลงทุนด้านนี้อีกมาก

ปัจจัยที่ 3 การปฏิรูปช่วยลดความสูญเสียและเพิ่มประสิทธิภาพแก่ระบบเศรษฐกิจ ประเทศที่เดินหน้าปฏิรูปในด้านต่างๆได้ดี เช่น ระบบราชการ ภาษี กฎหมาย ภาคธนาคาร อุตสาหกรรมการศึกษา ฯลฯ จะดึงดูดเงินลงทุนในระยะยาว

ปัจจัยที่ 4 ชนชั้นกลางขยายตัว มีรายได้เพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยขับเคลื่อน “การบริโภค” ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง หนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว

นอกจากนี้ หุ้น EM มีระดับราคาถูก หลายแห่งถูกกว่าหุ้นของตลาดพัฒนาแล้วมาก หลังจาก EM เผชิญปัจจัยกดดันสาคัญ 2 ประการ ในช่วงปีเศษๆที่ผ่านมา ดังนี้

1.เฟดขึ้นดอกเบี้ย - ดอลลาร์แข็งค่า กดดันหุ้น EM ปรับตัวลงลงจนเข้าสู่ภาวะหมี แต่ในที่สุดธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้หยุดพักการขึ้นดอกเบี้ย และเริ่มส่งสัญญาณว่าดอกเบี้ยอาจปรับลดลงในระยะถัดไป ส่งผลให้ดอลลาร์กลับอ่อนค่า “ปัจจัยกดดัน” EM ในปีที่แล้ว จึงพลิกกลับเป็น“ปัจจัยหนุน”ในปีนี้ ขับเคลื่อนกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย (ฟันด์โฟลว์) ให้มีแนวโน้มไหลกลับเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่

2 สงครามการค้า สหรัฐฯ-จีน ได้แปรเปลี่ยนเป็น “สงครามเย็นด้านเทคโนโลยี” ในระยะยาว ภาคธุรกิจตลอดจนรัฐบาลประเทศต่างๆ รับรู้และเริ่มปรับตัวได้แล้ว

นางชวินดา กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดเสนอขายครั้งแรก ( IPO) กองทุนเปิดเคแทม อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ตส์ อิควิตี้ ฟันด์ ( KT-EMEQ)ระหว่างวันที่ 17- 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีจากกนักลงทุน มียอดเงินลงทุนกว่า 600 ล้านบาท พร้อมเปิดเสนอขายครั้งถัดไปในวันที่ 2 ก.ค.นี้ ผ่านสาขาธนาคารกรุงไทย และผู้สนับสนุนการขายกว่า 50 แห่งทั่วงประเทศ เงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท