posttoday

บล.กสิกรไทย คาดหุ้นแกว่ง 1,610-1,625 จุด

30 พฤษภาคม 2562

เปิดโผหุ้นเด่นวันนี้ DTAC BGRIM ฟาก CBG เตะตากองทุน

เปิดโผหุ้นเด่นวันนี้ DTAC BGRIM ฟาก CBG เตะตากองทุน

ตลาดหุ้นไทยและหุ้นโลกยังอยู่ในวังวนของข่าวลบเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน จากประเด็นข่าวจีนอาจห้ามส่งออกแร่หายากไปยังสหรัฐฯเพื่อเป็นการตอบโต้สหรัฐฯส่งผลให้นักลงทุนลดความเสี่ยงเข้าซื้อพันธบัตรอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลง

รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (บอนด์ยิลด์) ก็ปรับตัวลงเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ทางการจีนยังไม่ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ และเป็นประเด็นที่ตลาดรับรู้อยู่โดยตลอด จึงมองว่าหากไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจากจีนตลาดหุ้นสหรัฐฯมีโอกาสปรับขึ้น

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)กสิกรไทย คาดการณ์ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (30 พ.ค.) SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1,610-1,625 จุด การตอบโต้ระหว่างสหรัฐฯ-จีนยังคงสร้างความกังวลต่อตลาด แต่มองว่าเป็นเทคติกของทั้งสองฝ่ายก่อนที่จะเข้าสู่การเจรจาในการประชุม G20 ซึ่งบล.กสิกรไทย ยังคาดหวังผลลัพธ์เชิงบวกจากการเจรจา และเชื่อว่ามีโอกาสไม่มากที่จะมีการตอบโต้ด้วยมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีระหว่างกัน เพราะจะสร้างผลกระทบในวงกว้าง

ส่วนสถานการณ์การเมืองไทยให้ติดตามกำหนดการเลือกนายกรัฐมนตรี หลัง พล.อ.ประยุทธ์ได้นำรายชื่อ ประธานสภาขึ้นทูลเกล้าแล้ว คาดรัฐบาลชุดใหม่จะได้รับเสียงสนับสนุนข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร แต่จะมีส่วนต่างน้อยกว่า 30 เสียง การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเน้นมาตรการระยะสั้นผ่านการกระตุ้นการบริโภคเป็นหลัก ซึ่งจะดีต่อกลุ่มพาณิชย์

ธปท.กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาและติดตามสถานการณ์มาตรการควบคุมสินเชื่อรถยนต์เพื่อออกเกณฑ์ควบคุมการอนุมัติสินเชื่อให้สอดคล้องกับสัดส่วนรายได้ และสัดส่วนหนี้ หากมีการออกมาตรการจะเป็นแรงกดดันต่อหุ้น TISCO TCAP KKP และคาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อราคาหุ้นในวันนี้


คาดจะมีเม็ดเงินเข้าลงทุนในหุ้น CBG ประมาณ 200-300 ล้านบาทในวันที่ 31 พ.ค. นี้อิงน้ำหนัก 0.4-0.6% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ( NAV )รวมของกองทุน Passive fund ที่ลงทุนใน SET 50 จำนวน 14 กองทุน มูลค่า 5 หมื่นล้านบาท.

นอกจากนี้คาดหุ้นที่จะเข้าคำนวน SET50 ได้แก่ OSP SAWAD ( มาร์เก็คแคป 1.5% ของ SET 50) ส่วนหุ้นที่จะถูกถอดออกจาก SET 50 ได้แก่ BPP SPRC (มาร์เก็ตแคป 1% ของ SET 50) ทั้งนี้จะมีประกาศอย่างเป็นทางการช่วงกลางเดือนมิ.ย. นี้


กลยุทธ์การลงทุน ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มต่อไปนี้
1) กลุ่มหุ้นที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL BJC HMPRO CPF
2) กลุ่มหุ้นที่อิงกับโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค AMATA STEC CK BGRIM DTAC
3) กลุ่มปันผลสูง ได้ประโยชน์จากเทรนดอกเบี้ยขาลง และมีเงินไหลเข้าจากกองทุนตราสารหนี้หลังโดนเก็บภาษี 15% ได้แก่ JASIF ,TFFIF, ABPIF, JAS, QH, ADVANC ,INTUCH
4) กลุ่มที่งบไตรมาสแรกดี กำไรมีแนวโน้มถูกปรับขึ้น ได้แก่ SAPPE, PR9, PTG, SPALI, TTCL, PRM

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ DTAC (ปิด 47.50 บาท ซื้อ/พื้นฐาน 55.37 บาท) ราคาหุ้นปรับตัวลง 13% หลังชนราคาเป้าหมายที่บริเวณ 55 บาท ทำให้เปิด upsides กว่า 16.5% แถมปันผลตอบแทนอีก 2.3% กำไรจะเติบโตก้าวกระโดดจากอัตรากำไรขั้นต้น ที่ดีขึ้นบนการแข่งขันที่ลดลง รวมถึงค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่ายลดลง

อีกตัว คือ BGRIM (ปิด 32.50 บาท ซื้อ/พื้นฐาน 34.50 บาท) โครงการในเวียดนามคืบหน้าตามแผนการ และยังมี upsides ให้ลุ้นอีกราวๆ 1.50 บาท จากโครงการโรงไฟฟ้าที่ไทย มาเลเซียและเกาหลี