posttoday

หุ้นหวิดหลุด 1,600 จุด

16 พฤษภาคม 2562

สงครามการค้า หวั่นเงินไหลออก กดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ดัชนีปิดวันที่ 16 พ.ค.ที่ระดับ 1,614.75 จุด ลดลง 6.52 จุด (-0.40%) มูลค่าการซื้อขาย 60,378.41 ล้านบาท

สงครามการค้า หวั่นเงินไหลออก กดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ดัชนีปิดวันที่ 16 พ.ค.ที่ระดับ 1,614.75 จุด ลดลง 6.52 จุด (-0.40%) มูลค่าการซื้อขาย 60,378.41 ล้านบาท

ขณะที่ระหว่างวันดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,626.08 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,604.76 จุด

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงรับแรงกดดันจากประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และการจัดตั้งรัฐบาลของไทย ในช่วงที่ตลาดฯยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา

อย่างไรก็ตาม เมื่อดัชนีฯปรับตัวลงมาใกล้แนว 1,600 จุด ก็สามารถที่จะรีบาวด์ขึ้นได้บ้าง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแนว 1,600 จุด ยังสามารถที่จะรับอยู่ได้ในช่วงสั้น อีกทั้งที่ผ่านมาดัชนีฯก็ปรับตัวลงมามากแล้ว

สำหรับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะตลาดในกลุ่ม TIP (ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ) ปรับตัวลงมากกว่า เพราะได้รับผลกระทบจากความกังวลเงินทุนไหลออก

โดยเฉพาะตลาดอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ จะปรับตัวลงมาก เพราะสองประเทศนี้มีการพึ่งพิงเงินทุนต่างประเทศมากกว่าไทย และเงินสำรองของประเทศก็อ่อนแอกว่าไทย ทำให้ตลาดหุ้นไทยแม้จะติดลบแต่ก็น้อยกว่าอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามความคืบหน้าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และการประชุมสภาฯของไทยที่จะเปิดในสัปดาห์หน้า รวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี ) ไตรมาส 1/62 ของไทยก็จะออกในสัปดาห์หน้าด้วย ซึ่งตลาดฯกำลังรอข้อมูลใหม่มาสนับสนุนการลงทุน

แนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ (17 พ.ค.) นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดฯอาจจะยังปรับฐานในช่วงรอข้อมูลใหม่ เพื่อเป็นแรงส่งให้ดัชนีฯปรับขึ้นต่อไปได้ แต่ในช่วงสั้นได้เห็นสัญญาณมีคนมารับเมื่อดัชนีฯเข้าใกล้ระดับ 1,600 จุด พร้อมให้แนวรับ 1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630 จุด

5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด

GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,890.64 ล้านบาท ปิดที่ 97.75 บาท ลดลง 4.75 บาท

BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 2,362.01 ล้านบาท ปิดที่ 4.46 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,992.98 ล้านบาท ปิดที่ 128.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,943.67 ล้านบาท ปิดที่ 122.00 บาท ลดลง 1.50 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,864.65 ล้านบาท ปิดที่ 76.25 บาท ลดลง 0.25 บาท