การเมืองกดดันหุ้น กองทุนช้อนซื้อ

คอลัมน์ นายกระทิงและหญิงฟลอร์

----------------

ตลาดหุ้นไทยวันที่ 24 เม.ย.ดัชนีปิดที่ระดับ 1,673.43 จุด เพิ่มขึ้น 2.12 จุด (+0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 47,524.82 ล้านบาท

นักลงทุนสถาบันซื้อ 894.79 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อ 88.55 ล้านบาท ต่างชาติขาย 504.03 ล้านบาท รายย่อยขาย 479.31 ล้านบาท

ภาพรวมดัชนีแกว่งแคบ แม้ว่าปัจจัยจากต่างประเทศจะช่วยหนุน ทั้งเรื่องราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และเศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่ต่างฟื้นตัว แต่ตลาดก็ได้รับแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศ ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่าหากไม่มีเรื่องนี้ตลาดก็น่าจะปรับตัวขึ้นไปได้อีก โดยขณะนี้รอติดตามการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือน พ.ค.นี้

ผู้จัดการกองทุนมองบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นโลกและหุ้นไทย "ชวินดา หาญรัตนกูล" กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย คาดว่าหุ้นโลกอยู่ในช่วงขาขึ้นจากแรงหนุนของสภาพคล่องที่กลับเข้าสู่ตลาดหุ้นทั่วโลก หลังเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้หุ้นไทยได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย นอกจากนี้โอกาสที่หุ้นไทยจะเป็นขาลงอาจมีไม่มาก เนื่องจากระบบการเงินมีเสถียรภาพ ดังนั้นนักลงทุนที่สนใจลงทุนสามารถทะยอยสะสมได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกองทุน LTFและ RMF คาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยสิ้นปี 1,740 จุด

มีขึ้นก็ต้องมีลง มีกำไรก็ต้องขาย "นเรศ งามอภิชน" นักลงทุนรายใหญ่ลดพอร์ตหุ้นออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI)โดยเจ้าตัวรายงานก.ล.ต.ว่าวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมาได้ขายหุ้น ORIออก 0.698 % แต่ก็ยังถืออยู่อีก 4.304 % นอกจากนี้มีบิ๊กล็อตหุ้นโนเบิล (NOBLE)จำนวน 70 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 19 % ราคา 13.04 บาท ต่ำกว่ากระดาน มูลค่ารวม 918 ล้านบาท ...ใครทำรายการเดี๋ยวรู้

นเรศ งามอภิชน

ก.ล.ต.- ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตือนผู้ถือหุ้น จี เจ สตีล (GJS)ให้ศึกษาข้อมูลการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน 117 ล้านบาท แก่ จี สตีล (GSTEL)ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ GJS ซึ่งเข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเห็นว่าไม่เหมาะสมและผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติ นอกจากนี้ขอให้ผู้ถือหุ้นรักษาสิทธิของตนเองโดยเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 เม.ย.นี้ เวลา 9.30 น. ณ โรงแรมอโนมา กรุงเทพฯ

หลังระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ก็ติดปีก สำหรับ โอสถสภา (OSP)"วรรณิภา ภักดีบุตร" กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ว่า ปีนี้มั่นใจผลการดำเนินงานยังเติบโตดีต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยล่าสุดบริษัททุ่มงบลงทุน 2,400 ล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตเครื่องดื่มแห่งใหม่ที่เมียนมา คาดเดินเครื่องการผลิตได้ภายในไตรมาส 4 นี้

"จตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ"ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) หรือ TOA เปิดเผยในงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 ว่าปีนี้บริษัทเตรียมตั้งสำรองชดเชยพนักงานตามกฎหมายใหม่จำนวน 74 ล้านบาท ส่วนโรงงานใหม่ 3 แห่งในต่างประเทศ คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 5 ปี ขณะที่ราคาวัตถุดิบยังผันผวนหวั่นกระทบอัตรากำไรขั้นต้น แต่คงเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10% หรือทำได้ 1.8 หมื่นล้านบาท ตามการปรับกลยุทธ์ตลาดในประเทศ โดยจะเพิ่มตัวแทนจำหน่ายและช่องทางธุรกิจค้าปลีก

กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL)แจ้งว่า กิจการร่วมค้า จีเคอี แอนด์ เอฟอีซี ซึ่งเป็นการร่วมค้าระหว่าง GUNKULและบริษัท ฟิวเจอร์ อีเล็คทริคอล คอนโทรล (FEC)ที่ถือหุ้นโดย บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (GPD) บริษัทย่อยของ GUNKULได้รับหนังสือยืนยันการจ้างงานวิศวกรรม-จัดหา-ก่อสร้าง (EPC)โครงการนำสายสื่อสารลงใต้ดินในพื้นที่กรุงเทพฯ พื้นที่ 3 มูลค่างานรวมภาษีมูลค่าเพิ่มประมาณ 5,000 ล้านบาท

ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ (CPT)ผู้ให้บริการระบบไฟฟ้าสำหรับควบคุมการทำงานของเครื่องจักร และมอเตอร์ขนาดใหญ่ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ติดปีกหนุนการเติบโต หลังร่วมมือกับ บริษัท ซีเมนส์ ผู้นำด้านวิศวกรรมระดับโลก โดยได้รับความไว้วางใจให้เป็น “License Partner”ผลิตตู้ไฟฟ้าและจำหน่ายอุปกรณ์ภายใต้ตราสินค้า ‘SIEMENS’ ยกระดับสินค้าสู่มาตรฐานโลก ลุยขยายฐานลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ และงานโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ คาดเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาสที่ 4 ปีนี้