posttoday

ตลท.จับมือตลาดหุ้น"เซินเจิ้น"

23 เมษายน 2562

ไทย-จีน ร่วมสนับสนุน"เอสเอ็มอี" จัดโรดโชว์ จับคู่ธุรกิจ พัฒนาสินค้า-บริการข้ามตลาด บ่มเพาะสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี

สนับสนุนเอสเอ็มอี 2 ประเทศ ขยายโอกาสหุ้นไทย-จีน ให้รู้จักมากขึ้น พร้อมเปิดเชื่อมโยงทั้งสองตลาด

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น (SZSE) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์สำคัญของในการแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ สำหรับตลาดทุนไทยด้วยการเชื่อมโยงกับต่างประเทศ โดยมีระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย.2562

ความร่วมมือครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการร่วมกันพัฒนาตลาดทุน รวมทั้งผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ของทั้งสองประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้ยุทธศาสตร์หลัก “China-Thailand SME Capital Market Service Initiative”โดยสร้างแพลตฟอร์มเพื่อเป็นศูนย์รวมข้อมูลเอสเอ็มอี รวมทั้งศักยภาพทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ มีการพัฒนาเครือข่ายพันธมิตร “ChiNext-mai Alliance” ระหว่างตลาดหลักทรัพย์ ChiNext และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ซึ่งเป็นตลาดสำหรับบริษัทขนาดกลางและเล็กของทั้งสองประเทศ

ทั้งนี้ จะมีการจัดโรดโชว์และจับคู่ธุรกิจ มุ่งส่งเสริมให้หลักทรัพย์ของไทยและจีนเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนการพัฒนาสินค้าและบริการข้ามตลาด อาทิ cross-listing ETF หรือ DR cross-border index ความร่วมมือด้าน green finance เป็นต้น

นายหลี่ ฮวย รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น เปิดเผยว่า การลงนามความร่วมมือครั้งนี้เป็นการสานต่อความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น และตลท.ที่มีมาอย่างยาวนาน ในครั้งนี้จะทำให้เกิดความร่วมมือในการสร้างนวัตกรรมข้ามพรมแดนอย่างเป็นรูปธรรม เอื้อให้เกิดการเชื่อมโยงและพัฒนาทางเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ โดยเน้นความร่วมมือใน 3 ด้าน คือ 1) การบ่มเพาะสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี 2) การสร้างพันธมิตรระหว่างตลาดที่มีการเติบโตสูงของทั้ง 2 ประเทศ และ 3) การศึกษาช่องทางในด้านการเงินและการลงทุนระหว่าง 2 ตลาด

นอกจากนี้ เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ไทย ได้ขยายช่องทางการเผยแพร่ข้อมูลไปยังผู้ลงทุนจีนผ่านการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับสำนักข่าวซินหัว ซึ่งเป็นสื่อหลักของประเทศจีน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างสองประเทศ