posttoday

ต่างชาติทิ้งหุ้นไทย 2แสนล้าน

22 ตุลาคม 2561

โบรกเกอร์ต่างชาติทิ้งหุ้นไทย 9 เดือน ทะลุ 2.58 แสนล้าน ซีแอลเอสเอแชมป์ขายมากสุด 3.56 หมื่นล้าน จับตาจีดีพีสหรัฐหากดี ทุบหุ้นป่วน

โบรกเกอร์ต่างชาติทิ้งหุ้นไทย 9 เดือน ทะลุ 2.58 แสนล้าน ซีแอลเอสเอแชมป์ขายมากสุด 3.56 หมื่นล้าน จับตาจีดีพีสหรัฐหากดี ทุบหุ้นป่วน

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2561 ถึงจนถึงวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติได้เทขายหุ้นไทยแล้วกว่า 2.58 แสนล้านบาท ซึ่งแรงขายของต่างชาติทำให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลง ขณะที่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) วูบลง 1.64 ล้านล้านบาท จากต้นปีอยู่ที่ 18.33 ล้านล้านบาท ลงมาเหลือ 16.69ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ หากดูตัวเลขการซื้อขายของบริษัทสมาชิกที่เป็นบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศ (บล.) หรือโบรกเกอร์ 5 อันดับแรกที่ขายสุทธิหุ้นไทย อันดับ 1 คือ บล.ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) ขายสุทธิ 3.56 หมื่นล้านบาท รองลงมาคือ บล.ยูบีเอส (ประเทศไทย) ขายสุทธิ 3.50 หมื่นล้านบาท อันดับ 3 คือ บล.เจพี มอร์แกน (ประเทศไทย) ขายสุทธิ 3.35 หมื่นล้านบาท อันดับ 4 คือ บล.โนมูระ พัฒนสิน ขายสุทธิ 1.94 หมื่นล้านบาท และอันดับ 5 คือ บล.แมคควอรี (ประเทศไทย) ขายสุทธิ 1.94 หมื่นล้านบาท และมีเพียง บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) รายเดียวที่ซื้อสุทธิ 325 ล้านบาท

บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า หุ้นโลกอยู่ในภาวะเปราะบางเห็นได้จากช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผันผวนและปรับตัวลดลงรุนแรง สะท้อนว่าอยู่ในภาวะสภาพคล่องในระบบเริ่มลดลงหลังดอกเบี้ยอยู่ในวัฏจักรขาขึ้น ส่วนผลกระทบจากสงครามทางการค้าชัดเจนมากขึ้น สถานการณ์ลักษณะนี้จะกระทบต่อหุ้นไทย เพราะเงินต่างชาติยังไม่ไหลเข้ามาแม้ว่าหุ้นไทยมีปัจจัยบวกจากการเติบโตของเศรษฐกิจ จึงคาดว่าสัปดาห์นี้ดัชนีจะต่ำกว่า 1,700 จุด

อย่างไรก็ตาม ตลาดทุนทั่วโลกต้องเกาะติดการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ว่ายืนยันการยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงปริมาณ (QE) ภายในสิ้นปีนี้หรือไม่ และตรึงดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำต่อไปถึงกลางปีหน้า ส่วนการประกาศตัวเลขจีดีพีสหรัฐในงวดไตรมาส 3 ปี 2561 คาดเติบโต 3.3% จากไตรมาสก่อนหน้าและลดลงจากไตรมาส 2 ที่โต 4.2% หากออกมาดีกว่าคาดอาจทําให้ความกังวลเรื่องธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง และจะทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกดดันหุ้นทั่วโลกอีกครั้ง