หุ้นไทยปิดภาคเช้าลดลง2.52จุด

หุ้นไทยปิดช่วงเช้าที่ระดับ 1,620.44 จุด ลดลง 2.52 จุด มูลค่าการซื้อขาย 22,109.53 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบก่อนปิดช่วงเช้าที่ระดับ 1,620.44 จุด ลดลง 2.52 จุด (-0.16%) มูลค่าการซื้อขาย 22,109.53 ล้านบาท โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,630.67 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,617.65 จุด

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริหารการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ โดยดัชนีฯเปิดเทรดในช่วงเช้าก็อยู่ในแดนบวก แต่ต่อมาก็มีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง ซึ่งมองว่านักลงทุนบางส่วนยังขาดความเชื่อมั่น และเมื่อเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ก็มีแรงขายในบริเวณ 1,630 จุด

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกราว 0.3-0.4% ซึ่งตลาดบ้านเราปรับฐานเหมือนกับตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นออสเตรเลีย

ทั้งนี้ มองว่าเป็นเรื่องปกติของการฟื้นตัวที่เมื่อขึ้นเร็วก็มีการลดการเก็งกำไรบ้าง อย่างไรก็ดีมองตลาดในเอเชียเป็นบวกมากขึ้น จากที่มีการผ่อนคลายเรื่องสงครามการค้า ที่ยังไม่เห็นนโยบายด้านภาษีเพิ่มเติม แต่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด รวมถึงติดตามความคืบหน้าเรื่องที่ทางยุโรปจะลดภาษีนำเข้ารถยนต์ให้สหรัฐฯ ซึ่งก็ต้องรอดูว่าสหรัฐฯจะว่าอย่างไรบ้าง ถ้าสหรัฐฯไม่จัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรป ก็จะทำให้ยิ่งเป็นการผ่อนคลายความกังวลเรื่องสงครามการค้าไปได้มาก

นอกจากนี้ ค่าเงินในเอเชียได้ชะลอการอ่อนค่า โดย US Dollar Index ได้ถูกขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็เป็นผลดีต่อตลาดฯ

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกรภัทร กล่าวว่า ตลาดฯจะค่อย ๆ สร้างฐานและดีดตัวขึ้นมา โดยมีแนวรับ 1,618-1,614 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630-1,638 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 1,407.64 ล้านบาท ปิดที่ 7.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,246.57 ล้านบาท ปิดที่ 136.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,174.85 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท ลดลง 1.75 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,029.35 ล้านบาท ปิดที่ 191.50 บาท ลดลง 2.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,017.41 ล้านบาท ปิดที่ 46.50 บาท ลดลง 0.50 บาท