หุ้นไทยซึมตัวปิดภาคเช้าร่วง3.96จุด

หุ้นไทยซึมรอผลประชุมเฟด ดัชนีปิดภาคเช้าที่1,723.33 จุด ลดลง 3.96 จุด มูลค่าการซื้อขาย 20,863.15 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ก่อนปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,723.33 จุด ลดลง 3.96 จุด (-0.23%) มูลค่าการซื้อขาย 20,863.15 ล้านบาท โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,728.54 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,718.67 จุด

นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ซึมตัวลง รอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยดัชนีฯเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบ เนื่องจากต่างก็มีความกังวลเกี่ยวกับความคิดเห็นของประธานเฟดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ

สำหรับบ้านเราคงจะยังได้รับแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติอยู่ แต่ก็ไม่กังวลว่าดัชนีฯจะปรับตัวลงลึก เนื่องจากบ้านเราปัจจัยพื้นฐานยังดี และก็จะมีการเลือกตั้งด้วย ซึ่งน่าจะทำให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อได้ เพียงแต่ตอนนี้ตลาดฯไม่มีแรงจูงใจในการซื้อ อีกทั้งยังต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ด้วย ซึ่งรอบนี้เชื่อว่าจะมีการลดการทำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ด้วยปัจจัยที่เกิดขึ้นหลายอย่างทำให้เม็ดเงินต่างชาติมีการไหลกลับเข้าสู่ตลาดพัฒนาแล้ว

อย่างไรก็ดี ยังมองว่าเมื่อดัชนีฯไหลลงมาแถวระดับ 1,690-1,710 จุด ก็เป็นโอกาสที่จะเข้าซื้อสะสมหุ้นได้ โดยเฉพาะหุ้นพวก Domestic Plays อย่างหุ้นในกลุ่มแบงก์, ค้าปลีก, ท่องเที่ยว และวัสดุก่อสร้าง มองว่าน่าสนใจเข้าซื้อ

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายธีรวุฒิ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังซึม พร้อมให้แนวรับ 1,710 จุด ส่วนแนวต้าน 1,735 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,376.09 ล้านบาท ปิดที่ 51.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,033.96 ล้านบาท ปิดที่ 67.25 บาท ลดลง 1.00 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 923.72 ล้านบาท ปิดที่ 21.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 770.90 ล้านบาท ปิดที่ 200.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 738.76 ล้านบาท ปิดที่ 80.00 บาท ลดลง 0.50 บาท