หุ้นไทยรีบาวด์ปิดภาคเช้าพุ่ง9.60จุด

ตลาดหุ้นไทยเริ่มมีแรงซื้อ ปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,732.71 จุด เพิ่มขึ้น 9.60 จุด มูลค่าการซื้อขาย 26,639.23 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า ก่อนปิดที่ระดับ 1,732.71 จุด เพิ่มขึ้น 9.60 จุด (+0.56%) มูลค่าการซื้อขาย 26,639.23 ล้านบาท โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,735.27 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,724.71 จุด

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้รีบาวด์ขึ้น โดยเริ่มมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นที่ Laggard จากความคาดหวังทุกอย่างเป็นไปตามคาด รวมถึงมีแรงซื้อเข้ามาที่หุ้นในกลุ่มแบงก์, หุ้นในกลุ่มค้าปลีก และหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หลังนักลงทุนหันมาเล่นหุ้นในกลุ่ม Domestic Plays

อย่างไรก็ตามคาดว่าการเข้ามาลงทุนดังกล่าวเป็นแค่ระยะสั้น เนื่องจากนักลงทุนยังรอดูปัจจัยหลักจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการประชุมระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ, การประชุมธนาคารกลางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ต่างก็รอติดตามปัจจัยหลักดังกล่าวด้วยเช่นกัน

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังยืนในแดนบวกได้ ถ้าการหารือระหว่าง"ทรัมป์"และผู้นำเกาหลีเหนือเป็นไปด้วยดี

พร้อมให้แนวรับ 1,725 จุด ส่วนแนวต้าน 1,735 จุด

"ในทางเทคนิคดัชนีฯควรจะยืน 1,735-1,740 จุด ให้ได้ ถ้ายังไม่ได้ดัชนีฯก็มีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้ต่อ"

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,576.39 ล้านบาท ปิดที่ 51.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,518.86 ล้านบาท ปิดที่ 80.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,167.78 ล้านบาท ปิดที่ 201.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 996.50 ล้านบาท ปิดที่ 26.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

CPN มูลค่าการซื้อขาย 821.47 ล้านบาท ปิดที่ 72.25 บาท ลดลง 1.50 บาท