หุ้นไทยแกว่งกรอบแคบปิดลดลง2.97จุด

ดัชนีหุ้นไทยแกว่งในกรอบแคบก่อนปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,754.17 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด มูลค่าการซื้อขาย 60,169.03 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 18 พ.ค.หุ้นไทยแกว่งในกรอบแคบตลอดทั้งวันก่อนปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,754.17 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด หรือ 0.17% มูลค่าการซื้อขาย 60,169.03 ล้านบาท โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,755.53 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,745.90 จุด

นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบค่อนข้างแคบ เนื่องจากตลาดฯไม่มีประเด็นบวก/ลบใหม่เข้ามา ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของสหรัฐฯ ก็ปรับตัวขึ้นมาระดับ 3.1% ทำให้กดดันการลงทุนโดยรวม ส่งผลให้ Fund Flow ยังคงไหลออกจากตลาดเกิดใหม่

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย

แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายภาดล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวลง ดัชนีฯน่าจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway ถึง Sideway Down โดยดัชนีฯมีโอกาสลงมาทดสอบระดับ 1,740 จุด เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติยังคงขายอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ MSCI ได้ประกาศลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทย อาจจะส่งผลให้บรรดากองทุนต่างทยอยลดน้ำหนักลง ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,760-1,765 จุด

สำหรับปัจจัยที่จะต้องติดตามในสัปดาห์เป็นตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยงวดไตรมาส 1/61 ซึ่งตลาดฯคาดว่าจะเติบโต 4% และให้ติดตามศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติตีความร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งวุฒิสภา (ส.ว.) รวมถึงให้ติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

EA มูลค่าการซื้อขาย 4,205.05 ล้านบาท ปิดที่ 38.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,435.71 ล้านบาท ปิดที่ 81.50 บาท ลดลง 0.25 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,297.54 ล้านบาท ปิดที่ 57.00 บาท ลดลง 0.25 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,787.68 ล้านบาท ปิดที่ 26.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,721.99 ล้านบาท ปิดที่ 69.75 บาท ลดลง 0.75 บาท