posttoday

โบรกแนะลดพอร์ตหุ้นเหลือ40% มองก.พ.ปรับฐานทั้งเดือน

06 กุมภาพันธ์ 2561

โบรกแนะลดพอร์ตหุ้นเหลือ 40% ในภาวะตลาดผันผวน มองดัชนีหุ้นไทยปรับฐานถึงปลายเดือน ก.พ.นี้

โบรกแนะลดพอร์ตหุ้นเหลือ 40% ในภาวะตลาดผันผวน มองดัชนีหุ้นไทยปรับฐานถึงปลายเดือน ก.พ.นี้

นางภรณี ทองเย็น รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส (ASP) เปิดเผยว่า ในภาวะที่ตลาดหุ้นผันผวน ให้ลดพอร์ตการถือหุ้นลงเหลือ 40% จากเดิม 50%

ทั้งนี้ เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐน่าจะปรับฐานต่อ หลังจากเมื่อวันศุกร์ร่วงหนักสุดในรอบ 2 ปี เพราะเป็นตลาดที่แพงแห่งหนึ่งของโลก โดยปรับขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559-2561 ให้ผลตอบแทนรวมสูงถึง 44% สัดส่วนราคาต่อกำไรที่คาดหวังขึ้นมาเหนือ 18 เท่า สูงกว่าตลาดหุ้นยุโรป อัตราเติบโตกำไรต่อหุ้นปี 2561 จะเติบโต 16% แต่ปีหน้าคาดเติบโตในอัตราที่ชะลอลง

อย่างไรก็ดี หุ้นไทยน่าจะปรับฐานตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยดัชนีมีโอกาสหลุดต่ำกว่า 1,800 จุด เพราะการเมืองเข้ามามีน้ำหนักต่อตลาด จะมีแรงขายรับงบไตรมาส 4 โดยสัปดาห์นี้หุ้นใหญ่แจ้งงบหลายแห่ง หุ้นใหญ่กลุ่มพลังงานจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง

นอกจากนี้ มองว่าดัชนีมีโอกาสปรับฐานไปจนถึงปลายเดือนนี้ ดังนั้นในภาวะตลาดแบบนี้ควรเลือกหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูงสม่ำเสมอ และหุ้นที่มีความผันผวนต่ำ

นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มการลงทุนในวันนี้ ตลาดหุ้นน่าจะแกว่งตัว ขึ้นอยู่กับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐว่าจะชะลอตัวหรือไม่ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ถ้าเข้าใกล้ระดับ 3% ก็น่าจะเริ่มชะลอการปรับตัวขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลให้ตลาดทั่วโลกกลับมามีเสถียรภาพและฟื้นตัวได้

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า การซื้อขาย ET50 Index ลดลงแรง เป็นไปตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย หลังจากกังวลแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐที่เริ่มสูงขึ้น เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี และทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งสูงขึ้นกดดันการลงทุนในตลาดหุ้น

แนวโน้มด้านตลาดหุ้นสหรัฐไปจนถึงวันพุธกลางสัปดาห์นี้ มองว่าดัชนีดาวโจนส์จะมีความผันผวนค่อนข้างมาก หลังจากวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงแรง ซึ่งยังมีโอกาสที่จะเห็นดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 25,000-25,100 จุดได้ จากความผันผวนที่เกิดขึ้น ทำให้มีแรงขายทำกำไรระยะสั้น โดยจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย

ดังนั้น แนะนำให้นักลงทุนติดตามดัชนีดาวโจนส์รวมทั้งแนะนำ Short เมื่อดัชนีปรับตัวลดลงค่อยปิดสถานะ ให้แนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,187 จุด แนวรับที่ระดับ 1,157 จุด

ด้านราคาทองคำได้มีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ซึ่งในระยะสั้นไม่ปรับเพิ่มขึ้นมาก เพราะค่าเงินดอลลาร์เริ่มกลับมาแข็งค่า หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี โดยให้แนวต้านอยู่ที่ 1,345 ดอลลาร์/ออนซ์ แนวรับ 1,300 ดอลลาร์