posttoday

คลังขายหุ้นยึดทรัพย์

25 มกราคม 2561

คลังเตรียมเปิดประมูลขายหุ้นนิติเหตุ 20 บริษัท ซึ่งรวมถึงหุ้นเดวิส กรุ๊ป ต้นปีนี้ พร้อมเปิดให้ผู้ถือหุ้นเดิมและผู้ที่สนใจซื้อได้

คลังเตรียมเปิดประมูลขายหุ้นนิติเหตุ 20 บริษัท ซึ่งรวมถึงหุ้นเดวิส กรุ๊ป ต้นปีนี้ พร้อมเปิดให้ผู้ถือหุ้นเดิมและผู้ที่สนใจซื้อได้

น.ส.ปิยวรรณ ล่ามกิจจา รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาจำหน่ายหุ้นตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยกลุ่มแรกที่จะขายมีทั้งสิ้น 24 บริษัท เป็นการได้มาจากนิติเหตุ หรือยึดทรัพย์ ซึ่งมีทั้งธุรกิจโรงพยาบาล ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น โดยในส่วนนี้รวมถึงหุ้นบริษัทในกลุ่มเดวิส 4 แห่งด้วย

ทั้งนี้ สคร.คาดว่าแผนยุทธศาสตร์การจำหน่ายหุ้นทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกของปี 2561 และคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายหุ้นได้ภายในปีนี้ โดยใน 24 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าน้อย 20 บริษัท และอีก 4 บริษัท ต้องมีการตรวจสอบสถานะทางการเงิน (ดิวดิลิเจนต์) ก่อน เพราะมีมูลค่า จึงต้องสำรวจราคาตลาดที่แท้จริง

สำหรับราคาหุ้นของ 4 บริษัทในกลุ่มเดวิส ซึ่งอยู่ใน 20 บริษัทแรกที่จะขาย จะต้องมีการพิจารณาในรายละเอียด เช่น ราคาที่ได้มา ราคาต้นทุน รูปแบบการเปิดขายจะทำตามกระบวนการ โดยจะมีการแจ้งผู้ถือหุ้นเดิม และบุคคลที่สนใจสามารถเข้ามาเสนอราคาได้ ส่วนจะขายได้หรือไม่ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีคนที่สนใจหรือไม่ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับกระทรวงการคลัง เนื่องจากไม่เคยมีการขายหุ้นที่ได้มาจากนิติเหตุ หรือการยึดทรัพย์มาก่อน

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันกระทรวงการคลังมีการถือครองหลักทรัพย์ทั้งสิ้น 116 แห่ง แบ่งเป็นหลักทรัพย์เอกชน 88 แห่ง ในส่วนนี้แบ่งเป็นหลักทรัพย์ที่มีการล้ม ล้าง เลิกกิจการ 33 แห่ง ที่อยู่ระหว่างการชำระบัญชี และเป็นการถือหุ้นในรัฐวิสาหกิจอีก 23 แห่ง รวมถึงการถือหุ้นในกองทุนรวมต่างๆ อีก 5 แห่ง โดยตามหลักการจะต้องมาพิจารณาจัดกลุ่มหลักทรัพย์แต่ละส่วนก่อน ซึ่งแบ่งเป็นหลักทรัพย์กลุ่มที่กระทรวงการคลังจำเป็นต้องถือ หลักทรัพย์ ที่ได้มาโดยนิติเหตุ หรือยึดทรัพย์ หลักทรัพย์ กลุ่มที่หมดความจำเป็นต้องถือตามนโยบาย รัฐบาล และหลักทรัพย์ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เอกชนดำเนินการได้ดี ซึ่งทั้งหมดจะ ต้องมาพิจารณาแยกเป็นบริษัทจดทะเบียน และไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีกด้วย

"เมื่อได้ข้อสรุปหากมีนัยสำคัญก็ ต้องเสนอให้ ครม.พิจารณาอีกครั้ง" น.ส.ปิยวรรณ กล่าว