posttoday

ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้บริหารIFECกรณีกระทำทุจริตต่อหน้าที่

05 กันยายน 2560

ก.ล.ต. กล่าวโทษ "วิชัย ถาวรวัฒนยงค์"ประธานกรรมการบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ฯกรณีกระทำทุจริตต่อหน้าที่

ก.ล.ต. กล่าวโทษ "วิชัย ถาวรวัฒนยงค์"ประธานกรรมการบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ฯกรณีกระทำทุจริตต่อหน้าที่

ก.ล.ต. กล่าวโทษ นายวิชัย  ถาวรวัฒนยงค์ ในฐานะประธานกรรมการบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (IFEC) ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) กรณีกระทำโดยทุจริตโดยแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้เพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น สืบเนื่องจากช่วงเดือนธันวาคม 2559 IFEC มีกรรมการบริษัทน้อยกว่าจำนวนองค์ประชุมที่กฎหมายกำหนด นายวิชัยซึ่งเป็นประธานกรรมการของบริษัทจึงเรียกประชุมผู้ถือหุ้น IFEC เพื่อเลือกตั้งกรรมการทดแทนกรรมการที่ว่าง

โดยในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2560 เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 และการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 นายวิชัยในฐานะประธานกรรมการและประธานที่ประชุมทั้ง 2 ครั้ง ได้ดำเนินการให้ที่ประชุมเลือกตั้งกรรมการบริษัททดแทนตำแหน่งที่ว่างโดยใช้วิธีการลงคะแนนเสียงแบบสะสม (cumulative voting) ทั้งที่รู้ว่าข้อบังคับของบริษัทมิได้กำหนดให้สามารถกระทำได้  ซึ่งต่อมาในวันที่  26 มิถุนายน 2560  กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีคำสั่งไม่รับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการที่ได้มาจากการเลือกด้วยวิธีการลงคะแนนเสียงดังกล่าว เนื่องจากไม่เป็นไปตามข้อบังคับของบริษัท และเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 70 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535

การกระทำของนายวิชัยดังกล่าวเป็นการกระทำที่ตั้งใจกระทำผิดและได้รับประโยชน์จากผลการเลือกตั้งดังกล่าวซึ่งเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย หรือทำให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ตามมาตรา 89/7 และมาตรา 281/2 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535

ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษนายวิชัยต่อ ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป  ซึ่งการถูกกล่าวโทษทำให้นายวิชัยเข้าข่ายมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนตามประกาศ ก.ล.ต. จึงไม่สามารถเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนได้ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ 

นอกจากนี้  ก.ล.ต. อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนอื่น ๆ เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการและผู้บริหารของ IFEC รวมทั้งอดีตคณะกรรมการและผู้บริหารของ IFEC ว่าเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่  ซึ่งหากปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำที่ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ จะเป็นผลให้บุคคลดังกล่าว อาจถูกดำเนินการตามกฎหมายซึ่งมีทั้งโทษอาญาและมาตรการลงโทษทางแพ่ง

ทั้งนี้  การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนการวินิจฉัยคดีซึ่งเป็นดุลพินิจของศาลยุติธรรมตามลำดับ