posttoday

ตลท.เตือนผู้ถือหุ้นNEWSศึกษาข้อมูลรอบคอบ

07 มิถุนายน 2560

ตลท. แฉยิบ NEWS เปลี่ยนพาร์กลับไปกลับมา 2 ปีก่อนรวมพาร์จาก1บาทเป็น5บาท ถัดมาขอเปลี่ยนจาก5บาทเป็น1บาทพร้อมให้ ขอให้ผู้ถือหุ้น ศึกษาข้อมูล รอบคอบ

ตลท. แฉยิบ NEWS เปลี่ยนพาร์กลับไปกลับมา 2 ปีก่อนรวมพาร์จาก1บาทเป็น5บาท ถัดมาขอเปลี่ยนจาก5บาทเป็น1บาทพร้อมให้  ขอให้ผู้ถือหุ้น ศึกษาข้อมูล รอบคอบ

ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) (NEWS) ชี้แจงวัตถุประสงค์การใช้เงินเพิ่มทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยบริษัทจะเพิ่มทุนจำนวน 239,420 ล้านบาท ส่งผลให้ทุนจดทะเบียนใหม่เป็น 281,961 ล้านบาท และให้คณะกรรมการของ NEWS ชีแจงว่าการเปลียนแปลงมูลค่าทีตราไว้ (Par) จากหุ้นละ 5 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท สอดคล้องกับแนวทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทีบริษัทจดทะเบียนควรใช้เมือหลักทรัพย์มีสภาพคล่องตํา มีจำนวนหุ้นน้อย และมีราคาต่อหุ้นค่อนข้างสูงอย่างไร

บริษัทได้ชี้แจงว่าจะนำเงินเพิ่มทุนไปคืนหนี้สถาบันการเงิน 200 ล้านบาท คืนหนีเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนของนักลงทุน 4 รายรวม 465.60 ล้านบาท ส่วนทีเหลือเป็นเงินทุนหมุนเวียน สำหรับเรืองการเปลียนแปลง Par นัน คณะกรรมการของ NEWS ได้ชีแจงว่าคณะกรรมการรับทราบรายละเอียดของแนวทางดังกล่าว แต่เห็นว่าแม้ข้อเท็จจริงจะไม่สอดคล้องกับคำแนะนำของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในทุกประเด็น แต่การลด Par ดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างแท้จริงและเป็นการกระทำทีชอบด้วยกฎหมาย จึงอนุมัติให้ลด Par และเพิ่มทุน (รายละเอียดปรากฏตามข่าวของ NEWS วันที 25, 26 พฤษภาคม 2560 และวันที 1, 2, 6 มิถุนายน 2560)

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นว่าการดำเนินการของบริษัทในเรืองการเปลียนแปลง Par ไม่สอดคล้องกับแนวทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทังเรืองสภาพคล่อง จำนวนหุ้น และราคาต่อหุ้น โดยขอสรุปการเปลียนแปลงทุนและการเปลี่ยนแปลง Par ของ NEWS ในช่วงเวลา 2 ปี ภายใต้การบริหารจัดการของคณะกรรมการซึงส่วนใหญ่เป็นชุดเดียวกัน โดยปี 2558 เป็นการรวม Par แต่ปี 2560 เป็นการ Split Par

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้ผู้ถือหุ้นของ NEWS ศึกษาข้อมูลของบริษัทอย่างรอบคอบและรักษาสิทธิของผู้ถือหุ้นโดยเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที 3 กรกฎาคม 2560 เวลา 8.30 น. ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 5-6 ชัน 5 ศูนย์ประชุมวายุภักษ์โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ

ทั้งนี้ รายการดังกล่าวต้องได้รับอนุมัติจากทีประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทังหมดของผู้ถือหุ้นทีมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน