posttoday

กลต.คุมขายไอพีโอ สกัดปั่นหุ้นผ่านRP

29 มีนาคม 2560

ก.ล.ต.เฮียริ่งคุมขายไอพีโอให้ผู้มีอุปการคุณอีกรอบ กำหนดชัดขึ้นให้แค่ 15% รายชื่อผ่านบริษัทสกัดปั่นหุ้น-เพิ่มโอกาสนักลงทุน

ก.ล.ต.เฮียริ่งคุมขายไอพีโอให้ผู้มีอุปการคุณอีกรอบ กำหนดชัดขึ้นให้แค่ 15% รายชื่อผ่านบริษัทสกัดปั่นหุ้น-เพิ่มโอกาสนักลงทุน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า จะเปิดรับฟังความคิดเห็น (เฮียริ่ง) ปรับปรุงเกณฑ์การจัดสรรหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ส่วนที่ให้กับผู้มีอุปการคุณและบุคคลที่มีความสัมพันธ์ของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ (RP) เพื่อไม่ให้กระจุกตัวในกลุ่มบุคคลใดมากเกินไปจนทำให้ควบคุมปริมาณหุ้นไอพีโอได้ง่ายนำไปสู่การสร้างราคาหุ้น รวมถึงการกระจายให้กับผู้ลงทุนทั่วไปเพียงพอ คาดว่าจะใช้กับบริษัทที่จะยื่นขอตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2560

“พบว่า การซื้อขายหุ้นไอพีโอในหลายกรณีร้อนแรงราคาซื้อขายช่วงแรกสูงกว่าราคาไอพีโอมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่หุ้นที่จัดสรรในช่วงไอพีโอกระจุกตัวในกลุ่ม RP 40-50% ของจำนวนหุ้นที่ขาย ทำให้มีการควบคุมปริมาณหุ้นจนนำไปสู่การสร้างราคาหุ้นได้ง่าย และพบว่ามีรายชื่อผู้มีอุปการคุณซ้ำกันในการทำไอพีโอของบริษัทที่อยู่ต่างอุตสาหกรรมกัน ซึ่งการรายงานผลการขายก็ไม่ชัดเจนว่าเป็นผู้มีอุปการคุณของบริษัทที่แท้จริง” 

สำหรับการปรับปรุงนิยามของผู้มีอุปการคุณ ต้องเป็นบุคคลที่สร้างประโยชน์อย่างต่อเนื่องหรือชัดเจนให้กับบริษัท กำหนดสัดส่วนไม่เกิน 15% เมื่อรวมกับส่วนที่จัดสรรให้ RP และพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยแล้วไม่เกิน 25% ของหุ้นไอพีโอทั้งหมด

นอกจากนี้ ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทมีหน้าที่จัดทำรายชื่อผู้มีอุปการคุณตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติ และนำส่งรายชื่อและระบุลักษณะการมีอุปการคุณต่อสำนักงานพร้อมกับรายงานผลการขาย และบริษัทหลักทรัพย์ที่ทำหน้าที่จำจัดหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (อันเดอร์ไรเตอร์) จะต้องไม่มีส่วนกำหนดรายชื่อผู้มีอุปการคุณ และให้รายงานผลการขายใน 30 วันจากเฮียริ่งขยายจากรอบแรกที่ 10 วัน

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ASP) ให้ความเห็นว่า เป็นเรื่องดีเพราะการขายหุ้นไอพีโอให้ผู้มีอุปการคุณในสัดส่วนสูงจะทำราคาได้ง่าย

สำหรับ ASP ไม่กระทบ เพราะที่ผ่านมามีการขอลดสัดส่วนจากที่ลูกค้าต้องการจัดสรรหุ้นให้ผู้มีอุปการคุณอยู่แล้ว ซึ่งปีนี้จะมีการขายไอพีโอ 3-4 ราย จากทั้งหมด 29 ราย และอีก 28 ธุรกรรมเป็นทั้งที่ปรึกษาการเงินปรับโครงสร้าง และซื้อหรือควบรวมกิจการ ส่วนงานรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นกู้และตั๋วแลกเงิน (บี/อี) จะลดลงจากปี 2559 ที่มีมูลค่า 1.3 แสนบาท เพราะคัดเลือกลูกค้ามากขึ้น