posttoday

นักลงทุนสถาบันจับมือไม่ลงทุนธุรกิจคอร์รัปชัน

11 มีนาคม 2556

นักลงทุนสถาบัน 5 กลุ่มประกาศจุดยืนต่อต้านคอร์รัปชัน ลั่นลดมูลค่าลงทุนในบริษัทเกี่ยวข้องกับทุจริต

นักลงทุนสถาบัน 5 กลุ่มประกาศจุดยืนต่อต้านคอร์รัปชัน ลั่นลดมูลค่าลงทุนในบริษัทเกี่ยวข้องกับทุจริต

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. นักลงทุนสถาบัน 5 กลุ่ม ได้แก่ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) สำนักงานประกันสังคม สมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย และสมาคมประกันชีวิตไทย ซึ่งมีเม็ดเงินลงทุนรวมกันประมาณ 7 ล้านล้านบาท ร่วมลงนามและประกาศจุดยืนต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน โดยร่วมกันกำหนดแนวปฏิบัติในการดำเนินงานและการลงทุนของนักลงทุนสถาบัน เพื่อสนับสนุนให้เกิดบรรษัทภิบาลและยกระดับบริษัทจดทะเบียนของไทยให้ปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น

นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ผู้ร่วมผลักดันให้เกิดความร่วมมือดังกล่าว เปิดเผยว่า มีแนวคิดที่จะเสนอให้นักลงทุนสถาบันกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อคัดเลือกบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่สามารถลงทุนได้ หรือ ไวท์ลิสต์ (White list) โดยจะต้องเป็นบริษัทที่มีผลดำเนินงานที่ดีและมีธรรมาภิบาล

"มูลค่าเงินลงทุนของนักลงทุนสถาบันทั้ง 5 กลุ่ม น่าจะมากพอที่จะเป็นขับเคลื่อนให้สังคมไทยใสสะอาดได้ และหากบริษัทจดทะเบียนมาร่วมมือกันก็จะทำให้ต้นทุนที่ต้องจ่ายเพื่อการคอร์รัปชันลดลง และทำให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ทั้งยังส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น"นางวรวรรณ กล่าว

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะต้องคัดเลือกบริษัทที่มีธรรมาภิบาล เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส

"นอกจากนี้ ในบทวิเคราะห์หลักทรัพย์จะให้ความสำคัญกับการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียน และหากบริษัทที่มีรายได้จากการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชันจะต้องถูกลดมูลค่าลง เพราะรายได้จากการคอร์รัปชันไม่มีความแน่นอน ในขณะเดียวกัน จะต้องให้คำแนะนำกับนักลงทุนว่า การลงทุนในบริษัทที่มีธรรมาภิบาลจะดีกว่าในระยะยาว"นางภัทธีรา กล่าว

นายสมจินต์ ศรไพศาล นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน กล่าวว่า ในปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ลงทุนบริษัทที่มีธรรมาภิบาลในระดับดี ตามการประเมินของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการไทย (IOD) อยู่แล้ว และไม่ลงทุนในบริษัทที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการทุจริต