posttoday

สกัดหุ้น-ทองผันผวน

18 สิงหาคม 2554

สำนักหักบัญชีประกาศเพิ่มมูลค่าหลักประกันสินค้าใน TFEX หลังราคาแกว่งตัวสูง

สำนักหักบัญชีประกาศเพิ่มมูลค่าหลักประกันสินค้าใน TFEX หลังราคาแกว่งตัวสูง SET 50 Index Futures เพิ่มเป็น 5.32 หมื่นบาทต่อสัญญา

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) หรือ TFEX เปิดเผยว่า ผลจากความผันผวนของราคาสินค้าอ้างอิงหลายๆ ตัวในตลาดอนุพันธ์ ทางสำนักหักบัญชี (TCH) จึงได้มีการประกาศมูลค่าหลักประกันใหม่ โดยได้เพิ่มมูลค่าหลักประกันใน SET 50 Index Futures เป็น 5.32 หมื่นบาทต่อสัญญา เพิ่มจากเดิม 3.8 หมื่นบาทต่อสัญญา

“ขณะที่ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สปรับลดลงเพราะความผันผวนน้อย ส่วนหลักประกันของ SET 50 Index Futures และโกลด์ฟิวเจอร์ส ได้มีการประกาศเพิ่มเพราะราคามีการแกว่งตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะลดความร้อนแรงลงได้”กรรมการผู้จัดการ TFEX กล่าว

นายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรีนีตี้ โพลาริส ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า การเพิ่มมูลค่าหลักประกันถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อราคาอ้างอิงมีความผันผวน และครั้งนี้มูลค่าหลักประกันของสินค้าหลายประเภทปรับเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากราคาสินค้าอ้างอิงมีการแกว่งตัวสูง

ผลของการปรับเพิ่มมูลค่าหลักประกันนั้นอาจส่งผลต่อการลงทุนบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ลูกค้าวางเงินเกิน 3 เท่าของจำนวนสัญญาที่ต้องการลงทุนอยู่แล้ว

นายสัญญา หาญพัฒนกิจพานิช ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า มูลค่าหลักประกันที่ประกาศมีความเหมาะสมกับความผันผวนของราคาทองคำ ได้มีการแจ้งให้ลูกค้ารับทราบถึงมูลค่าหลักประกันที่เปลี่ยนแปลงไป และอยากเตือนนักลงทุนว่ามูลค่าที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้มีความเสี่ยงในการถูกเรียกวางเงินหลักประกันเพิ่มได้

ทั้งนี้ ผลการขยายเวลาซื้อขายในช่วงกลางคืน (Night Trade) พบว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุน ทำให้สัดส่วนบัญชีโกลด์ฟิวเจอร์สที่มีการซื้อขายได้เพิ่มขึ้นเป็น 70% ของบัญชีอนุพันธ์ที่มีจำนวน 2,800 บัญชีจากเดิมมีสัดส่วน 40% เท่านั้น

นายชาลี จันทนยิ่งยง รองเลขาธิการ รักษาการเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า คณะกรรมการกำกับตลาดทุนมีมติให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจบางเรื่องมีผลใช้บังคับในเดือน ก.ย.นี้

โดยเปิดกว้างการทำธุรกรรมสัญญาซื้อขายล่วงหน้า อนุญาตให้ผู้ได้รับใบอนุญาตค้าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสามารถทำธุรกรรมกับนิติบุคคลที่ไม่ใช่ผู้ลงทุนสถาบันได้ แต่ต้องทำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการทำธุรกิจ และต้องเป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าขั้นพื้นฐาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ส.ค. มีรายการซื้อขายรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) หุ้นบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) จำนวน 160.17 ล้านหุ้น รวม 11 รายการ มูลค่า 3,583 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 33.75 บาทต่อหุ้น เป็นการขายของกลุ่มจิราธิวัฒน์ผู้ถือหุ้นใหญ่ให้กับนักลงทุนสถาบัน ผ่านเครดิตสวิสดันมาร์เก็ตแชร์พุ่งขึ้น 16.21%

สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 17 ส.ค. ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง หลังมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากตื่นการลดเครดิตสหรัฐ โดยกลับมาซื้อสุทธิ 2,527 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 1,313 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 1,628 ล้านบาท โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,093.51 จุด เพิ่มขึ้น 16.49 จุด หรือ 1.53% มูลค่าซื้อขาย 33,829 ล้านบาท