posttoday

ธนารักษ์รีดค่าเช่าที่รัฐวิสาหกิจเพิ่มหมื่นล้าน

15 กรกฎาคม 2562

กรมธนารักษ์เร่งออกกฎหมายลูกเก็บค่าเช่าที่ราชที่รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานใช้ คาดทำให้มีรายได้เพิ่ม 10,000 ล้านบาท

กรมธนารักษ์เร่งออกกฎหมายลูกเก็บค่าเช่าที่ราชที่รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานใช้ คาดทำให้มีรายได้เพิ่ม 10,000 ล้านบาท

นายอํานวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ พ.ร.บ. ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 ได้เริ่มบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีผลให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจทุกแห่งจะต้องเสียค่าเช่าที่ราชพัสดุให้กับกรมฯ จากเดิมที่บางแห่งที่มีกฎหมายเฉพาะจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียค่าเช่า เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นต้น

ดังนั้น กรมฯ จะทำแนวทางการจัดเก็บค่าเช่า พร้อมเร่งจัดทำกฎหมายลูกเพื่อเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณา ถ้าได้รับการเห็นชอบก็จะเริ่มเก็บค่าเช่าได้ทันทีภายในปีนี้ สำหรับอัตราค่าเช่าก็จะมีการพิจารณาตามความเหมาะสม เช่น ถ้าเป็นพื้นที่สำหรับใช้ในสาธารณูปโภคพื้นฐานก็จะเก็บอัตราหนึ่ง แต่หากเป็นที่ราชพัสดุที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ก็จะเก็บอีกราคาหนึ่ง

ทั้งนี้ กรมฯ เตรียมเจรจากับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทั่วประเทศซึ่งมีการครอบครองที่ราชพัสดุอยู่กว่า 5 แสนไร่ เพื่อทำความเข้าใจในการจัดเก็บค่าเช่าที่ราชพัสดุตามกฎหมายฉบับใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานที่มีการนำที่ราชพัสดุไปใช้ฟรี หรือจ่ายค่าเช่าในอัตราที่ต่ำกว่าความเป็นจริง หรือนำที่ดินไปครอบครองแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้กรมฯ จะรวบรวมข้อมูลว่ามีสัญญาเช่ากับรัฐวิสาหกิจต่างๆ ว่ามีการเก็บค่าเช่าเท่าไร และการใช้ประโยชน์แบบใด เช่น ใช้เป็นสำนักงาน ใช้เพื่อผลิตสาธารณูปโภคพื้นฐาน ใช้เพื่อการกีฬา หรือนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ เพื่อนำมาประกอบการเก็บค่าเช่าให้เหมาะสม

นอกจากนี้กรมฯมีแผนหารือกับหน่วยงานราชการที่มีที่ราชพัสดุแต่ไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ ให้มีการนำมาพัฒนาสร้างรายได้ร่วมกัน เพื่อสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจให้เพิ่มขึ้น ส่วนแผนการปรับปรุงค่าเช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์กับภาคเอกชน 2.5 หมื่นแปลง ขณะนี้กรมฯได้มีการทบทวนค่าเช่าอยู่ ซึ่งหากพบว่ามีราคาต่ำกว่าราคาตลาด หรือไม่ได้ขึ้นค่าเช่ามานานก็จะพิจารณาปรับขึ้น

อย่างไรก็ตามค่าเช่าส่วนใหญ่คิดตามราคาตลาดอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีบางแปลงที่ตกหล่นก็จะมาทบทวนใหม่ ส่วนที่ราชพัสดุสำหรับใช้เป็นที่อยู่อาศัย 9.2 หมื่นแปลง และที่ดินเพื่อการเกษตรอีก 5 หมื่นแปลงจะยังไม่มีการปรับขึ้นค่าเช่า เว้นแต่จะมีการปรับปรุงสัญญาหรือเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้พื้นที่ถึงมีการทบทวนขึ้นค่าเช่า

นายอำนวย กล่าวว่า ภาพรวมค่าเช่าที่ราชพัสดุของกรมฯ ปัจจุบันมีผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ หรืออาร์โอเอเท่ากับ 2% กว่าๆ แบ่งเป็นที่ดินเชิงพาณิชย์เฉลี่ยอยู่ 3% ขณะที่ดินเพื่อการเกษตรและที่อยู่อาศัยจะอยู่ที่เฉลี่ย 1% แต่หลังขึ้นค่าเช่าใหม่รายได้อาร์โอเอจะเพิ่มเป็น 3% ขึ้นไป และทำให้ปีนี้กรมฯสามารถจัดเก็บรายได้ตามเป้าหมายที่ 10,000 ล้านบาท