ธปท.ปลดล็อกLTVให้แบงก์รัฐปล่อยกู้บ้านคนรายได้น้อย

ธปท. ยอมถอยผ่อนผันมาตรการ LTV ให้แบงก์รัฐที่ปล่อยกู้บ้านผู้มีรายได้น้อยและข้าราชการ

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยอมผ่อนผันเงื่อนไขมาตรการคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ (LTV) ให้กับ ธอส. กรณีที่ปล่อยกู้สินเชื่อบ้านที่เป็นสวัสดิการให้ข้าราชการออกไปอีก 1 ปี จนถึงวันที่ 31 มี.ค. 2563

สำหรับโครงการปล่อยกู้ซื้อบ้านที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ เช่น โครงการบ้านล้านหลังที่ ธอส. ดำเนินการเอง และบ้านคนไทยที่ ธอส. ร่วมปล่อยกู้ให้กับโครงการที่ธนารักษ์ดำเนินการ ให้มีการผ่อนผันไปจนถึงสิ้นสุดโครงการตามที่ ครม. เห็นชอบ

นายฉัตรชัย กล่าวว่า เป้าหมายปล่อยสินเชื่อของ ธอส. ปีนี้ อยู่ที่ 203,000 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ธนาคารประเมินว่าจะได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV ทำให้ปล่อยกู้สินเชื่อไม่ได้ตามเป้าหมาย 30% หรือ 6 หมื่นล้านบาท แต่หลังจาก ธปท. ผ่อนผันมาตรการ LTV คาดว่าจะเหลือผลกระทบให้ปล่อยสินเชื่อไม่ได้ตามเป้าหมาย 15% หรือประมาณ 3 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ธอส. จะเร่งปล่อยสินเชื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งตอนนี้มีการนำร่องปล่อยกู้วงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยไม่ทำตามเงื่อนไข LTV ที่ ธปท. กำหนด ซึ่งจะทำให้เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS)ลดลง 0.04% ซึ่งปัจจุบัน BIS ของธนาคารอยู่ที่ 14.6% หากได้ผลก็จะเสนอให้คณะกรรมการเห็นขอบเพิ่มวงเงิน เพื่อให้การปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายต่อไป

"การผ่อนผัน LTV ของ ธปท. ทำให้ลูกค้าของ ธอส. 40% ไม่ได้รับผลกระทบสามารถกู้ได้เต็มราคาประเมิน แต่มีลูกค้าอีก 60% ที่ยังได้รับผลกระทบ ซึ่งธนาคารจะยอมถูกกิน BIS โดยปล่อยกู้เต็มราคาประเมิน จากมาตรการ LTV ของ ธปท. กำหนดไว้ว่าห้ามปล่อยเกิน 95% ของราคาประเมิน เพื่อให้ลูกค้าของธนาคารที่เป็นผู้รายได้น้อยเข้าถึงสินเชื่อมากขึ้น" นายฉัตรชัย กล่าว

ทั้งนี้ ธอส.ปล่อยสินเชื่อบ้าน เดือน มกราคม ได้ 11,000 ล้านบาท เดือน กุมภาพันธ์ 12,000 ล้านบาท เดือนมีนาคม 19,000 ล้านบาท เนื่องจากมีการเร่งโอนบ้านหนีมาตรการ LTV ที่มีผลบังคับใช้เดือนเมษายน ซึ่งธนาคารปล่อยสินเชื่อได้ 9,400 ล้านบาท เดือนพฤษภาคม 12,500 ล้านบาท จากปกติปล่อยได้ 17,000 ล้านบาท และเดือนมิถุนายนปล่อยกู้ได้ 6,800 ล้านบาท คาดว่าหลังจาก ธปท. ผ่อนผันมาตรการ LTV และธนาคารทดลองปล่อยกู้เกินวงเงิน LTV แลกกับการยอมให้เงินกองทุนลดลง จะทำให้ปล่อยสินเชื่อได้ 203,000 แสนล้านบาท