"เงินติดล้อ"ดันกำไร BAY พุ่ง 108.5 %
คงเป้าสินเชื่อรวมปีนี้ขยายตัว 6-8 %ไตรมาสแรกโต 2.3 % จากเช่าซื้อรถยนต์ ธุรกิจขนาดใหญ่ เอสเอ็มอี ที่อยู่อาศัย
กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หากไม่รวมกำไรพิเศษขายเงินติดล้อ และค่าใช้จ่ายชดเชยพนักงานเกษียณ/เลิกจ้างตามพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) รายงานไตรมาส 1/62 มีกำไรสุทธิ 12,736.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากบันทึกกำไรจากการขายหุ้น 50% ในบริษัท เงินติดล้อ ส่งผลให้รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 8,585 ล้านบาท หรือ 98.1% จากไตรมาสก่อนหน้า
หากไม่รวมกำไรพิเศษดังกล่าว และค่าใช้จ่ายรองรับหนี้สินที่เพิ่มขึ้นจากการชดเชยกรณีพนักงานเกษียณและเลิกจ้างตามการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน จะมีกำไรสุทธิ 6,929 ล้านบาท เป็นกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์รายไตรมาส
โดยไตรมาส 1/62 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อรวมที่ 1.7 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.3% จากสิ้นปี 2561 มาจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่ สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี ) และสินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลลดลงจากการชำระคืนเงินตามปัจจัยฤดูกาล ขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 1.99% ณ เดือน มี.ค.2562
ธนาคารกรุงศรี ฯ ระบุว่า สำหรับไตรมาสที่เหลือของปี หลังจากการเลือกตั้งทั่วไปในเดือน มี.ค.แรงส่งอุปสงค์ในประเทศยังเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ต่างประเทศชะลอลง โดยธนาคารปรับลดประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปีนี้อยู่ที่ 3.8% จากเดิม 4.1% ธนาคารยังคงเป้าสินเชื่อรวมปีนี้ขยายตัว 6-8 %