posttoday

เติมบัตรคนจน3.7หมื่นล้าน

20 มีนาคม 2562

ครม.หนุน4โครงการเดินหน้าต่อถึงก.ย.2562 พร้อมเกณฑ์สินเชื่อพิโกฯ

รัฐบาลไฟเขียวจัดงบกลางรองรับกองทุนประชารัฐสวัสดิการหวังช่วยเหลือผู้มีรายได้ให้มีความต่อเนื่อง

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2561 อนุมัติงบกลางปี 2561 วงเงิน 3.79 หมื่นล้านบาท เพื่อเติมเงินเข้าไปในกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวม 4 มาตรการทั้งการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าและน้ำประปา การสนับสนุนค่าใช้จ่ายปลายปี การช่วยเหลือค่าเดินทางสำหรับผู้สูงอายุ และการช่วยเหลือค่าเช่าบ้านผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย

ทั้งนี้ การอนุมัติงบประมาณครั้งนี้เป็นไปตามกรอบการดำเนินโครงการที่ก่อนหน้านี้ ครม.ได้อนุมัติไปเมื่อปลายปี 2561 ที่ต้องใช้งบประมาณ 3.87 หมื่นล้านบาท แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้มีวงเงินเหลือในกองทุนฯ บางส่วน จึงมีการใช้จ่ายจากส่วนที่เหลือก่อน แต่พอเงินส่วนในกองทุนหมดแล้ว จึงมีการเติมเงินในรอบนี้ 3.79 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม นอกจาก 4 มาตรการเดิมแล้ว ครั้งนี้ได้มีการอนุมัติโครงการเพิ่มเติมที่จะได้รับการสนับสนุนจากกองทุนประชารัฐสวัสดิการ คือกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือเข้าไปในมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าด้วย เพราะที่ผ่านมาจะให้เฉพาะผู้ที่เสียค่าไฟฟ้ากับการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเท่านั้น แต่กิจการไฟฟ้าสวัสดิการฯ ยังไม่ได้เข้าร่วม โดยปัจจุบันมีผู้ที่ใช้อยู่ที่ 5.18 หมื่นราย

“การเติมเงินเข้ากองทุนฯ ครั้งนี้วัตถุประสงค์เพื่อใช้สนับสนุน 4 โครงการที่ได้รับอนุมัติไปก่อนหน้านี้และที่เพิ่มเติมใหม่อีก 1 โครงการในรอบนี้ ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2561-ก.ย. 2562” นายณัฐพร กล่าว

นายณัฐพร กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ยังได้อนุมัติปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) จากเกณฑ์ปัจจุบันที่ผู้ประกอบการสามารถปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าได้ไม่เกิน 5 หมื่นบาท/ราย โดยผู้ประกอบการต้องมีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท แก้ไขเป็นให้สามารถปล่อยสินเชื่อได้เป็น 1 แสนบาท/ราย แต่ผู้ประกอบการต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 10 ล้านบาท