posttoday

สแกนหน้าเปิดบัญชีธนาคาร

21 กุมภาพันธ์ 2562

ลุ้น 10 แบงก์ออกแซนด์ บ็อกซ์กลางปีนี้ สแกนใบหน้าพิสูจน์ตัวตนใช้เปิดบัญชีเงินฝาก เตรียมต่อยอดพร้อมเพย์ด้านการค้าออนไลน์

ลุ้น 10 แบงก์ออกแซนด์ บ็อกซ์กลางปีนี้ สแกนใบหน้าพิสูจน์ตัวตนใช้เปิดบัญชีเงินฝาก เตรียมต่อยอดพร้อมเพย์ด้านการค้าออนไลน์

น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงิน และเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า แนวทางการเข้าร่วมทดสอบและพัฒนานวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีใหม่มาสนับสนุนการให้บริการ (Regulatory Sandbox) ขณะนี้มีความคืบหน้าและพร้อมใช้งานจริงมากขึ้น คาดว่าไม่เกินไตรมาส 2 จะสามารถนำเทคโนโลยีที่ร่วมทดสอบออกมาใช้ได้ โดยเฉพาะเทคโนโลยีไบโอเมตริกเพื่อการพิสูจน์ตัวตน โดยมีการทดสอบโดยใช้ระบบการจดจำใบหน้า (Facial Recognition) ในกระบวนการจดจำลูกค้า ซึ่งมีสถาบันการเงินเข้าร่วมและเริ่มทดลองใช้กับลูกค้าสถาบันการเงินแล้ว 10 แห่ง

ทั้งนี้ หากนำระบบยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) เข้ามาใช้กับธุรกรรมทางการเงิน จะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้ง่ายและสะดวก รวมถึงปลอดภัยมากขึ้นด้วย โดยมีความถูกต้อง แม่นยำมากกว่า 98% อีกทั้งยังมีความสะดวก ปลอดภัย ป้องกันไม่ให้เกิดช่องโหว่ในการทุจริต มีการเก็บรักษาข้อมูลของลูกค้าที่ดี มีมาตรฐานปลอดภัยจากภัยไซเบอร์ เพราะสามารถเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลอย่างบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางได้ ซึ่งจะมีการเริ่มใช้กับธุรกรรมพื้นฐานของธนาคารคือ การเปิดบัญชีธนาคาร และในระยะต่อไปอาจมีการใช้กับการเปิดบัญชีประกันหรือกองทุน โดยไม่ต้องยืนยันตัวตนหรือให้ข้อมูลซ้ำ หากเคยมีการเปิดบัญชีในธุรกรรมประเภทเดียวกัน

"แบงก์ชาติได้เน้นย้ำให้สถาบันการเงินที่อยู่ระหว่างการทดสอบดูแลในเรื่องความถูกต้องแม่นยำของเทคโนโลยีให้ได้ตามมาตรฐานสากล ให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านไซเบอร์ โดยเฉพาะการดูแลข้อมูลของลูกค้า รวมทั้งเตรียมความพร้อมพนักงานสาขา Call Center ในการชี้แจงและทำความเข้าใจกับลูกค้า" น.ส.สิริธิดา กล่าว

นอกจากนี้ ยังเตรียมแผนพัฒนาระบบการชำระเงินสำหรับรายย่อยในปีนี้ จะเป็นการต่อยอดจากระบบพร้อมเพย์ รองรับการค้าขายออนไลน์ ทั้งโซเชียลคอมเมิร์ซ และอี-คอมเมิร์ซ เช่น ระบบเตือนเพื่อจ่าย และระบบตัวกลางชำระเงิน หรือเอสโครว์ เช่น ลูกค้าชำระเงินมาไว้ พอได้รับสินค้าจึงกดโอนไปที่ผู้ขาย เป็นต้น