ธกส.หวั่นหนี้เสียช่วยเกษตรปี'61 ฉุดกำไรพันล้าน

ธ.ก.ส.คาดกำไรปีงบ 2561 ลดลงเฉียดพันล้าน จากการปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย ขณะที่ เอ็นพีแอลทรงตัวอยู่ที่ 4%

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2561 (1 เม.ย. 2561-31 มี.ค. 2562) ธนาคารจะมีผลกำไรลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 900 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่ธนาคารมีกำไร 9,400 ล้านบาท มาอยู่ที่ 8,500 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย และการทำงานตามโครงการต่างๆ ของรัฐบาลกว่า 40 โครงการ เช่น โครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตรกรรายย่อย 3 ปี โครงการชำระดี มีคืน โครงการประกันพืชผล

"ตั้งแต่มีมติ ครม. ธ.ก.ส.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปพบกับเกษตรกรเพื่อถามปัญหาการชำระหนี้ว่าติดขัดเรื่องอะไรบ้าง ดูว่าเกษตรกรแต่ละคนประกอบอาชีพอะไร หรือต้องได้รับการสนับสนุนสินเชื่อหรือไม่ เป็นการส่งเสริมนโยบายรัฐบาล การทำงาน ธ.ก.ส.ไม่ได้วัดประสิทธิภาพทางการเงินเพียงอย่างเดียว แต่ต้องวัดการทำงานตามนโยบายรัฐบาลด้วย" นายอภิรมย์ กล่าว

นายอภิรมย์ คาดว่า ในส่วนของยอดบัญชีเงินฝากสิ้นปีงบประมาณ 2561 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้ตั้งเป้าไว้ประมาณ 5.7 หมื่นล้านบาท จากการสนับสนุนให้คนมาออมเงินมากขึ้น ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 4% และในปีนี้ ธ.ก.ส.จะร่วมกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) จัดทำโปรโมชั่นจูงใจคนให้เข้าร่วมโครงการมากขึ้น

นอกจากนี้ ในส่วนของยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) คาดว่า ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2562 จะอยู่ที่ 4% คาดว่าหนี้เสียจะอยู่ที่ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท โดยเป็นหนี้เสียของเกษตรกรรายย่อย 5% ถือว่าอยู่ในระดับสูงกว่าหนี้เสียของสถาบันการเงินซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2.3%