posttoday

ชาวนาไม่กู้ชะลอขายข้าว ธกส.ชี้ปีนี้ราคาดี

14 กุมภาพันธ์ 2562

ธ.ก.ส.ชี้ปีนี้ข้าวราคาดีทำให้ยอดสินเชื่อชะลอการขายปี 2561/2562 มีเกษตรกรยื่นกู้เพียง 1.08 หมื่นล้าน

ธ.ก.ส.ชี้ปีนี้ข้าวราคาดีทำให้ยอดสินเชื่อชะลอการขายปี 2561/2562 มีเกษตรกรยื่นกู้เพียง 1.08 หมื่นล้าน

นายสมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เปิดเผยความคืบหน้าโครงการสินเชื่อชะลอขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2561/2562 ล่าสุดว่า ยอด ณ วันที่ 10 ก.พ. 2562 มีเกษตรกรเข้าโครงการ 1.76 แสนราย คิดเป็นวงเงินกว่า 1.08 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังอยู่ระหว่างการรอเกษตรกรที่จะเข้ามาทำสัญญาในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งจะปิดโครงการในสิ้นเดือน ก.พ. 2562 นี้

ทั้งนี้ ประเมินว่ายอดการปล่อยสินเชื่อชะลอการขายในปีการผลิต 2561/2562 จะใช้วงเงินน้อยกว่าปีการผลิต 2560/2561 ที่มีเกษตรกรเข้าโครงการ 2.02 แสนราย คิดเป็นปริมาณข้าวเปลือกกว่า 1.24 ล้านตัน วงเงินที่ปล่อยสินเชื่อ 1.29 หมื่นล้านบาท ถือว่าเป็นการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปีการผลิต 2559/2560 ที่มีเกษตรกรเข้าโครงการ 2.62 แสนราย คิดเป็นปริมาณข้าวเปลือกกว่า 1.58 ล้านตัน คิดเป็นวงเงินที่ปล่อยสินเชื่อ 1.45 หมื่นล้านบาท

สำหรับสาเหตุที่เกษตรกรเข้าโครงการน้อยลง เพราะเป็นเรื่องของผลผลิตที่อาจจะลดลงกว่าปีก่อน ประกอบกับราคาข้าวในปีนี้เป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งราคาที่รัฐกำหนดมีราคาใกล้เคียงกับราคาตลาด เมื่อเกษตรกรคำนวณรวมกับค่ารับฝากและค่ารักษาคุณภาพข้าวแล้วอาจจะเห็นว่ามีราคาที่ไม่แตกต่าง จึงทำให้เกษตรกรตัดสินใจขายข้าวโดยที่ไม่เข้าโครงการชะลอการขายแบบทุกปี รวมทั้งเงื่อนไขในการเข้าโครงการที่มีการคำนวณจากความชื้น ซึ่งถ้าข้าวชื้นมากกว่า 15% ก็จะถูกทอนราคาลงไปด้วย

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ ธ.ก.ส.ได้เสนอขอมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขาย กำหนดเงื่อนไขวงเงินสินเชื่อต่อตันข้าวเปลือกที่ความชื้นไม่เกิน 15% สิ่งเจือปนไม่เกิน 2% จำแนกตามชนิดข้าวเปลือก ดังนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิราคาสินเชื่อตันละ 1.18 หมื่นบาท ข้าวเปลือกเหนียวราคาสินเชื่อตันละ 1.02 หมื่นบาท ข้าวเปลือกเจ้าราคาสินเชื่อตันละ 7,500 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานีราคาสินเชื่อตันละ 8,900 บาท

นอกจากนี้ เกษตรกรจะได้รับค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าว ตันละ 1,500 บาท โดยจ่ายพร้อมสินเชื่อก่อนตันละ 1,000 บาท และจ่ายภายหลังนำเงินมาชำระหนี้อีกตันละ 500 บาท

นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวในการเป็นประธานเปิดงานสัมมนา เดินหน้านโยบายเกษตรประชารัฐช่วยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร โดยผ่านระบบสหกรณ์การเกษตรเพื่อลดต้นทุนการผลิตว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ ได้หาทางสร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกร และหากราคาไม่กระเตื้องให้มาดู เรื่องลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกร ซึ่งเห็นตรงกันคือต้นทุนการผลิตที่สำคัญคือปุ๋ย อย่างไรก็ตาม จากการเชิญสมาคมผู้ค้าปุ๋ยมาหารือพบว่า สามารถลดราคาให้เพียง 5-15 บาท/กระสอบ 25 กิโลกรัมเท่านั้น ทางกระทรวงจึงได้ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ เดินหน้าโครงการผลิตปุ๋ยสั่งตัด โดยให้ ธ.ก.ส.ปล่อยกู้ 1,300 ล้านบาท ดอกเบี้ย 5% รัฐชดเชยดอกเบี้ย 2% และ ธ.ก.ส.รับภาระดอกเบี้ย 1% ต่อปี สหกรณ์รับภาระดอกเบี้ย 2%

ภาพประกอบข่าว