คลังยังไม่เสนอแผนควบรวมธนาคารทหารไทย-ธนชาตเข้าครม.

รมว.คลังเผยยังไม่เสนอแผนการควบรวมธนาคารทหารไทย-ธนาคารธนชาติ เข้าสู่การพิจารณาของครม.

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในวันนี้กระทรวงการคลังยังไม่ได้มีการเสนอเรื่องแผนการควบรวม ธนาคารทหารไทย (TMB) กับธนาคารธนชาต (TBANK) เข้าสู่การพิจารณาของ ครม. เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ยังไม่ได้ตอบเรื่องที่ได้สอบถามไป

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2562 ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้เข้าพบรมว.คลัง เพื่อสรุปแผนรายละเอียดการควบรวมธนาคารทหารไทยกับ ธนาคารธนชาตให้ รมว.คลัง รับทราบ และตัดสินใจเพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ในฐานะที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นในธนาคารทหารไทยประมาณ 21%

“แผนการควบรวมทั้งสองธนาคาร คาดว่าจะเสนอให้ ครม.เห็นชอบได้ภายในสัปดาห์นี้ หรืออย่างช้าสัปดาห์หน้า ซึ่งการควบรวมทำให้ทั้งสองธนาคารได้ประโยชน์ เพราะธนาคารใหม่จะมีความเข้มแข็งมากขึ้น สามารถแข่งขันกับธนาคารอื่นได้ดีกว่า และมีรายได้และกำไรมากขึ้น” แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผย

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การใช้วิธีการควบรวมจะทำให้กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นธนาคารทหารไทย ไม่ได้รับความเสียหาย และจะได้ประโยชน์จากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นในอนาคต เพราะธนาคารใหม่มีการดำเนินงานที่ดีขึ้น ส่วนธนาคารใหม่จะใช้ชื่ออะไรยังไม่สามารถเปิดเผยได้

ขณะที่ นายอภิศักดิ์ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาผู้บริหารทั้งสองธนาคารได้เข้ามาหารือถึงแนวทางการควบรวม โดยกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นในธนาคารทหารไทย และเป็นผู้กำกับดูแลความเข้มแข็งของสถาบันการเงินและเศรษฐกิจ ต้องการให้ธนาคารควบรวมกันเพื่อความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยที่ผ่านมา ครม.จึงเห็นชอบมาตรการภาษีสำหรับสนับสนุนการควบรวมสถาบันการเงิน

รมว.คลัง กล่าวว่า การควบรวมผู้ถือหุ้นต้องได้ประโยชน์มากขึ้น และการใส่เงินเพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นก็ต้องคุ้มค่า เมื่อมีการควบรวมจะมีใบอนุญาตการทำธุรกิจธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งต้องหมดไป โดยที่คลังจะไม่นำไปให้ผู้ประกอบการรายอื่น

ด้าน นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวว่า คลังต้องการให้การควบรวมธนาคารทหารไทยกับธนาคารธนชาตเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องที่เป็นหารือกันมานานแล้ว หากดำเนินการไม่ทันรัฐบาลจะต้องเสียเวลาพิจารณากันใหม่