posttoday

เฟด-น้ำมันกดดันบาทอ่อน

11 ตุลาคม 2561

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ 3 ปัจจัยดอกเบี้ยเฟด น้ำมัน ค่าเงินในภูมิภาค แรงกดดันบาทอ่อน ช่วงปลายปีนี้อยู่ที่ 33 บาท/ดอลลาร์

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ 3 ปัจจัยดอกเบี้ยเฟด น้ำมัน ค่าเงินในภูมิภาค แรงกดดันบาทอ่อน ช่วงปลายปีนี้อยู่ที่ 33 บาท/ดอลลาร์

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย โดยเฉพาะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว เริ่มมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ "แกว่งตัว" ชัดเจนขึ้นเมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี โดยเงินบาทอ่อนค่าไปแตะระดับ 33.10 บาท/ดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันที่ 9 ต.ค. ซึ่งเป็นวันที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทยประมาณ 4,630 และ 3,260 ล้านบาท ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตราการอ่อนค่า 2.6% เพียงไม่กี่วันจากระดับ 32.25 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงต้นเดือน ต.ค. 2561 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยิลด์) ของไทยระยะ 10 ปี ขยับขึ้นต่อเนื่องไปที่ 2.88% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2559

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า แม้ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและเครื่องชี้เสถียรภาพต่างประเทศที่ค่อนข้างแข็งแกร่งของไทย อาจจะช่วยบรรเทาความผันผวนของค่าเงินบาทลงได้บ้างบางส่วน

อย่างไรก็ดี เงินบาทยังมีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบที่อ่อนค่าลง เพราะปัจจัยแวดล้อมที่รออยู่ในระยะที่เหลือของปี ทั้งการคุมเข้มนโยบาย การเงินของเฟด ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ทรงตัวในระดับสูง รวมถึง ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แม้จะไม่ใช่ปัจจัยใหม่ แต่เมื่อผนวกกับช่วงห่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐและไทย ก็อาจจะทำให้ทิศทางของเงินบาท "มีความอ่อนไหว" ต่อปัจจัยต่างๆ เหล่านี้มากขึ้น โดยยังคงตัวเลขคาดการณ์ค่าเงินบาท ณ สิ้นปี 2561 ที่ระดับ 33 บาท/ดอลลาร์ (กรอบ คาดการณ์ที่ 32.50-33.50 บาท/ดอลลาร์)