posttoday

ธปท.ห่วงค่าบาทผันผวน

25 กันยายน 2561

ธปท.จับตาค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องจากเงินไหลเข้า ไม่หวั่นเฟดขึ้นดอกเบี้ยขึ้นอีก ส่งผลส่วนต่างดอกเบี้ยห่างเป็น 0.75%

ธปท.จับตาค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องจากเงินไหลเข้า ไม่หวั่นเฟดขึ้นดอกเบี้ยขึ้นอีก ส่งผลส่วนต่างดอกเบี้ยห่างเป็น 0.75%

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด เพราะมีความผันผวนสูงและแข็งค่ามากกว่าประเทศอื่นในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ แต่ยังไม่เห็นสัญญาณการเก็งกำไรค่าเงินบาท หากพบความผิดปกติ ธปท.มีเครื่องมือหลายอย่างที่พร้อมนำมาใช้สกัดการเก็งกำไรได้

ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า หากในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งจะทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยไทยและสหรัฐห่างกัน 0.75% ก็ยังไม่น่ากังวล เพราะส่วนต่างดอกเบี้ยเป็นปัจจัยส่วนเล็กที่มีผลเคลื่อนย้ายเงินทุน ตลาดเงินให้ความสำคัญกับความเสี่ยงภาพใหญ่มากกว่า แม้ไทยเป็นประเทศตลาดเกิดใหม่ แต่ฐานะต่างประเทศเข้มแข็งกว่าประเทศอื่น บางช่วงเวลาทำให้เงินไหลเข้ามา และต้องไม่ลืมว่าไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัดค่อนข้างสูง โดยปีนี้คาดว่าจะเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นรายได้ต่างประเทศมากกว่ารายจ่าย

"หากเทียบประเทศรอบข้างดอกเบี้ยไทยต่ำมาก สำหรับเรื่องของเงินทุน ไหลเข้านั้น มองว่าไม่ได้ขึ้นกับปัจจัยในเรื่องของส่วนต่างดอกเบี้ยเท่านั้น แต่เป็นเพราะในระบบการเงินของโลกมีสภาพคล่องสูง จึงทำให้มีเงินทุนเคลื่อนย้ายเข้ามา เพราะเศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่อง ประกอบกับเริ่มมีความชัดเจนทางการเมื่องในเรื่องของการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2562" นายวิรไท กล่าว

นอกจากนี้ อาจมีปัจจัยหลายอย่างที่เกิดขึ้นนอกประเทศอาจเป็นปัจจัยที่ตลาดไม่คาดคิดมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกีดกันทางการค้าที่จะออกมาเพิ่มเติม แม้กระทั่งปัญหาเศรษฐกิจของประเทศตลาดเกิดใหม่บางประเทศ ไทยมีปัจจัยในประเทศที่น่าสนใจ เช่น การฟื้นตัวเศรษฐกิจที่ชัดเจน ทิศทางการเมืองในประเทศที่ชัดเจน เป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบการเคลื่อนย้ายเงินทุนมาที่ประเทศไทย แต่ดอกเบี้ยที่ห่างกันอาจกระทบธุรกิจที่กู้เงินตราต่างประเทศต้องระมัดระวัง

สำหรับกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ระบุว่า มีความจำเป็นการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากจะลดน้อยลงเรื่อยๆ นั้น ผู้ว่าการ ธปท. ระบุว่า ไม่ได้หมายความว่าหากดอกเบี้ยจะเป็นขาขึ้นแล้วจะต้องขึ้นไปตลอด แต่ในการพิจารณาจะต้องขึ้นอยู่กับบริบทของสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนั้นๆ ด้วย

นักค้าเงินระบุว่า ค่าเงินบาทยังมีทิศทางที่ผันผวนตามปัจจัยต่างประเทศ ที่ยังแข็งค่าและอ่อนค่าไปตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วง แต่โดยรวมแล้วเงินบาทยังแข็งค่ากว่าสกุลเงินอื่นในเอเชีย เป็นรองเฉพาะญี่ปุ่นเท่านั้น